ประโยชน์ของ Power Bank ในสถานการณ์ฉุกเฉิน
หากพูดถึงแก็ดเจ็ตยอดนิยมในปัจจุบันที่ผู้ใช้งานอุปกรณ์ไอทีต่างๆ จำเป็นต้องมีพกพาติดตัวไว้ เพื่อช่วยตอบสนองดิจิทัลไลฟ์สไตล์ในชีวิตประจำวันก็แน่นอนว่า Power Bank ถือเป็นแก็ดเจ็ตชิ้นแรก ๆ ที่หลายคนนึกถึง เพราะการมีอยู่ Power Bank นั้นจะช่วยให้เราสามารถใช้งานอุปกรณ์ เช่น สมาร์ทโฟน แท็บเล็ต หรือกระทั่งแล็ปท็อป ได้อย่างลื่นไหลต่อเนื่องมากขึ้น โดยไม่ต้องกังวลกับการเมเนจพลังงาน หรือแบตเตอรี่ของอุปกรณ์แต่ละชิ้นมากเกินไป โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อปัจจุบันแบรนด์ผู้ผลิตแก็ดเจ็ตแต่ละเจ้าได้มีการพัฒนาสินค้าสเปคใหม่ ๆ ออกมาสู่ตลาดอย่างต่อเนื่อง ทั้งในเรื่องของประสิทธิภาพการชาร์จ ความเร็ว และความสะดวกในการต่อชาร์จ USB กับอุปกรณ์ต่าง ๆ ก็ยิ่งทำให้มีตัวเลือก Power Bank ที่น่าใช้งานให้ผู้ใช้งานอย่างเรา ๆ ได้เลือกใช้อยู่มากมาย อย่างไรก็ตามแม้ว่าภาพรวมตลาดแก็ดเจ็ตอย่าง Power Bank จะดูมีสเปคที่ดีขึ้น น่าใช้งานมากขึ้นดังกล่าวนี้ เมื่อเทียบกับปีก่อน ๆ แต่ขณะเดียวกันก็มีสินค้าที่ไม่ได้คุณภาพ สเปคบกพร่อง หรือไม่ตรงกับความเป็นจริงออกมาปะปนรวมอยู่ในตลาดไม่น้อยเช่นกัน ในบทความนี้จึงจะชวนมาเช็คลิสต์ พาวเวอร์แบงค์ 5 แบบ ที่ผู้ใช้งานอย่างเรา ๆ ควรหลีกเลี่ยงใช้งานกัน
ไม่มีเครื่องหมาย มอก. Power Bank แบบแรกที่ควรหลีกเลี่ยงใช้งานก็คือ Power Bank ที่ไม่มีเครื่องหมาย มอก. หรือการรับรองมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรมนั่นเอง ซึ่งจะว่าไปแล้วเครื่องหมายดังกล่าวนี้ก็อยู่ภายใต้การควบคุมของกฎหมายด้วยซ้ำ ดังนั้นแบรนด์ผู้ผลิตที่จำหน่ายพาวเวอร์แบงค์ที่ไม่มีเครื่องหมาย มอก.ก็เท่ากับละเมิดกฎหมายจำหน่ายสินค้าที่อาจก่อให้เกิดอันตรายแก่ผู้ใช้งานด้วย แบรนด์ Power Bank ที่มีความน่าเชื่อถือ มีเครื่องหมาย มอก. เช่น Power Bank Eloop, Power Bank Remax, Power Bank Yoobao เป็นต้น
Power Bank ชาร์จไว ความเร็วสูงในราคาเบาๆ พาวเวอร์แบงค์แบบต่อมาที่ผู้ใช้งานควรหลีกเลี่ยง เพราะเสี่ยงที่จะได้เจอกับสินค้าไม่ได้คุณภาพก็คือ พาวเวอร์แบงค์ที่มาพร้อมกับระบบชาร์จความเร็วสูง ด้วยจำนวนวัตต์เยอะ ๆ แต่ราคาสบายกระเป๋า เช่น Power Bank กำลังวัตต์ชาร์จ 120W, 200W แต่มีราคาเพียง 200-300 บาทเท่านั้น สเปคแบบนี้ถือว่าสุ่มเสี่ยงอย่างมากที่จะได้สินค้าไม่มีคุณภาพ และก่อให้เกิดอันตรายระหว่างการใช้งาน
Power Bank ทรงยาว พกพาสะดวก หากพูดถึงรูปทรงมาตรฐานของพาวเวอร์แบงค์ ผู้ใช้งานหลายคนคงพอสังเกตเห็นได้ว่ามันมักจะมีรูปทรงสี่เหลี่ยมแบน โดยที่มีพื้นที่ด้านกว้างประมาณนึง ซึ่งรูปทรงมาตรฐานดังกล่าวนี้ก็มีเหตุผลการออกแบบอยู่ในตัว เนื่องจากผู้ผลิตต้องคำนึงถึงความมั่นคง แข็งแรงของตัวแก็ดเจ็ต ไม่ให้แตกหักง่าย โดยเฉพาะอย่างยิ่งจากอุบัติเหตุตกหล่นในสถานการณ์ต่าง ๆ ทว่าปัจจุบันมีดีไซน์ใหม่ๆ จากผู้ผลิตบางรายที่คำนึงถึงความแปลกใหม่ และการพกพาที่สะดวก ทำให้ออกมาเป็นพาวเวอร์แบงค์รูปทรงยาว หรือสี่เหลี่ยมทรงแท่ง ซึ่งถือเป็นรูปทรงที่ค่อนข้างอันตรายเมื่อมองในแง่ของความปลอดภัย เพราะหากเกิดอุบัติเหตุตกหล่นต่าง ๆ ย่อมเสี่ยงที่จะแตกหักได้ง่ายกว่ารูปทรงสี่เหลี่ยมแบนมาตรฐาน
Power Bank ที่มาพร้อมสายชาร์จ USB ในตัว แม้ว่าพาวเวอร์แบงค์ แบบที่มาพร้อมกับสายชาร์จในตัวดูจะช่วยอำนวยความสะดวกให้ผู้ใช้งานหลายคนไม่ต้องวุ่นวายกับการพกพาสายชาร์จไทป์ต่าง ๆ แต่ขณะเดียวกันมันก็มาพร้อมกับข้อจำกัดในตัวเองด้วยเช่นกัน ประการแรกก็คือ หากสายชาร์จ หรือขั้วชาร์จที่เป็นหัว USB ไทป์ต่าง ๆ เกิดชำรุดเสียหายขึ้นมา การซ่อมแซมจะทำได้ยากนั่นเอง และประการต่อมาก็คือ ความเร็ว หรือกำลังวัตต์ในการชาร์จจะถูกกำหนดมาตายตัวจากสายที่ผู้ผลิตเลือกใส่มา ผู้ใช้งานอย่างเรา ๆ ไม่สามารถเปลี่ยนไปใช้สายชาร์จที่ให้กำลังวัตต์ชาร์จที่สูงกว่าได้นั่นเอง
มีหลายพอร์ตชาร์จ Power Bank อีกหนึ่งแบบที่ผู้ใช้งานอย่างเราๆ ควรหลีกเลี่ยงในปี 2024 นี้ก็คือ Power Bank ที่มาพร้อมกับจำนวนพอร์ตชาร์จที่มากเกินไปนั่นเอง ทั้งนี้แม้ว่าการมีพอร์ตชาร์จหลายพอร์ตจะช่วยให้เราสามารถใช้งานต่อชาร์จอุปกรณ์ต่างแพลตฟอร์ม หรือต่างแบรนด์ได้สะดวกมากขึ้น แต่การมีจำนวนพอร์ตชาร์จมากเกินไปก็จะส่งผลเสียต่อประสิทธิภาพการใช้งาน และความปลอดภัยด้วยเช่นกัน เพราะหมายความว่าตัวแก็ดเจ็ตจำเป็นต้องซัพพอร์ทการจ่ายไฟออกไปหลายช่องทางขึ้น ความเสถียรในการรับ จ่ายกระแสไฟก็มีแนวโน้มที่จะลดลงด้วย โดยหากจะให้กำหนดเกณฑ์การตัดสินใจเลือกจำนวนพอร์ตชาร์จของ Power Bank อย่างง่าย ๆ ก็อาจจะใช้เกณฑ์ 3+1 คือมีพอร์ตจ่ายไฟ ไม่เกิน 3 พอร์ต และพอร์ตรับไฟอีก 1 พอร์ต รวมจำนวนพอร์ตทั้งหมดไม่เกิน 4 พอร์ต ทั้งนี้ในการเลือกซื้อ Power Bank ควรที่จะดูที่ Package Power Bank ด้วย หากมีการชำรุด ฉีกขาด ควรหลีกเลี่ยงในการเลือกซื้อ เนื่องจาก Power Bank อาจจะได้รับความเสียหายได้
Related posts
