Power Bank หรือก็คือแบตสำรองนั้น นับว่าเป็นอุปกรณ์ที่หลายคนถึงกับต้องพกพาติดตัวอยู่ตลอดเวลาด้วยกันในยุคสมัยนี้ เนื่องจากเราใช้อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ไม่ใช่แค่ชิ้นเดียวกันแล้ว นอกเหนือจากสมาร์ทโฟน หลายคนยังเลือกที่จะพกพาบรรดาแท็บเล็ต กล้องถ่ายรูป หรือโน้ตบุ๊คไปไหนมาไหนด้วย โดยเฉพาะในยุคปัจจุบันที่ผู้คนทำงานกันแบบออนไลน์ การมีแบตสำรอง หรือ Power Bank ดี ๆ สักอันนับว่ามีประโยชน์มากกว่าแค่การชาร์จมือถืออย่างแน่นอน และ Power Bank ที่นิยมและฮิตใช้กันมากที่สุดคงไม่พ้น Power Bank Eloop
การใช้งานอุปกรณ์ Power Bank ก็ดูเหมือนจะง่าย เพียงแค่เราเสียบสายชาร์จเข้ากับตัวอุปกรณ์ของเรา เท่านี้เราก็จะสามารถใช้งาน Power Bank ได้แล้ว แต่มันจะเป็นเพียงแค่นั้นจริงหรือ วันนี้เราจะชวนคุณมาดูกันในเรื่องของวิธีการในการเสียบชาร์จ Power Bank อย่างถูกต้อง เพื่อให้ Power Bank ของเราอยู่กับเราได้อย่างยาวนาน มีความทนทาน และคุ้มค่ากับเงินที่เราจ่ายไป
ก่อนจะใช้งาน Power Bank
แบตสำรองของเรานั้น ต้องทำความเข้าใจกันก่อนว่าเป็นอุปกรณ์ที่ถูกสร้างขึ้นมาเพื่อใช้สำหรับในการบรรจุพลังงานไฟฟ้าลงไป สิ่งนี้เป็นอุปกรณ์ที่สามารถบรรจุพลังงานเหล่านี้ซ้ำไปได้เรื่อย ๆ หากพลังงานในแบตเตอรี่ของเราเกิดหมดขึ้นมา และเมื่อเราซื้ออุปกรณ์แบตสำรองมาแล้วนั้น อันดับแรกเราควรที่จะตรวจเช็คสภาพภายนอกทั่วไปก่อนว่ามีร่องรอยการขีดข่วน มีอาการบวมของแบตเตอรี่ หรือมีรอยบุบตรงไหนหรือไม่
หากลักษณะภายนอกมีความปกติไม่ได้ผิดอะไร ลองทำการทดสอบว่า Power Bank ที่เราซื้อมานั้นสามารถชาร์จเข้ากับอุปกรณ์ต่าง ๆ ของเราได้ดีหรือไม่ ไม่ว่าจะเป็นสมาร์ทโฟนหรือแท็บเล็ต หากทุกอย่างปกติ เราก็จะนำเอาอุปกรณ์แบตสำรองของเราไปชาร์จแบตเตอรี่ให้เต็มจึงค่อยนำไปใช้งาน ซึ่งโดยทั่วไปแล้วอุปกรณ์แบตสำรองจะมีช่องรับกระแสไฟฟ้าจากไฟบ้านเข้าสู่ตัวแบตเตอรี่ เรียกว่าช่อง input และช่องสำหรับการจ่ายพลังงานแบตเตอรี่ออกไปเรียกว่า output
การเสียบแบตสำรอง
อุปกรณ์แบตสำรองส่วนใหญ่แทบจะทุกรุ่นและทุกยี่ห้อ มักจะมีแถบไฟที่เป็นแอลอีดี เพื่อแสดงปริมาณความจุของแบตเตอรี่ให้เราได้รู้ว่าเหลือเท่าไหร่ ข้อควรระวังก็คือ เราไม่ควรที่จะนำตัวแบตสำรองของเราไปชาร์จไฟกับไฟบ้าน ในขณะที่ปริมาณแบตเตอรี่ข้างในแบตสำรองของเรายังเหลืออยู่มาก ถึงจะไม่มีอันตรายแก่ตัวผู้ใช้งานอะไรหากแบตสำรองของเราได้คุณภาพ แต่แน่นอนว่ามันส่งผลให้แบตสำรองของเรามีอายุการใช้งานสั้นลง และเพื่อที่จะยืดอายุการใช้งาน หากในแบตสำรองของเราแสดงความจุแบตเตอรี่เหลืออย่างต่ำ 30% เราจึงอาจค่อยนำตัวแบตสำรองไปชาร์จเพื่อเพิ่มไฟ และทางที่ดีเราควรนำแบบสำรองใช้งานควบคู่กับตัว Adapter หรือหัวแปลงที่ตัวแบตสำรอง มีมาให้เลย พยายามหลีกเลี่ยงชนิดหรือยี่ห้อที่แตกต่างกัน
การชาร์จแบตสำรอง
โดยปกติแบตสำรองแต่ละรุ่นหรือแต่ละยี่ห้อที่เราซื้อมา ทางผู้ผลิตจะมีคู่มือการใช้งานแถมมาให้อยู่เสมอ ซึ่งหลายคนอาจจะละเลยในสิ่งนี้ไป มีการระบุไว้อย่างละเอียดและชัดเจนว่าควรเสียบสายชาร์จนานแค่ไหน เปิดปิดอย่างไรจะถูกต้อง จนถึงวิธีการในการดูแลรักษาที่ถูกต้องก็มีให้เราดูด้วยเช่นเดียวกัน ขั้นตอนแรกของการใช้งาน จะมีการเขียนระบุคำแนะนำว่าให้ชาร์จไว้นานแค่ไหน โดยสังเกตบริเวณไฟแอลอีดี มันจะแสดงความจุแบตเตอรี่แบตสำรองของเรา ไฟแบบไหนบ่งบอกอะไร หรือบางรุ่นอาจมีเปอร์เซ็นต์แบตเตอรี่บอกด้วยซ้ำ ทางที่ดีเมื่อแบตเตอรี่เต็มแล้วเราควรถอดสายชาร์จออกทันที อย่าทิ้งไว้นานจนเกินไป
ข้อแนะนำสำหรับการชาร์จแบตสำรอง
ในขณะที่เราทำการชาร์จแบตสำรองนั้น เราไม่ควรนำแบตสำรองของเราไปชาร์จอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์อื่นไปด้วย เนื่องจากอุปกรณ์เหล่านี้จะทำหน้าที่ดึงไฟจากแบตสำรองของเราทันทีหลังจากชาร์จเสร็จ แน่นอนว่ามันส่งผลให้แบตสำรองของเราเกิดอาการเสื่อมได้เร็วขึ้น และแนะนำเวลาชาร์จเราควรที่จะเสียบปลั๊กโดยตรง และที่สำคัญควรมี Premium Power Bank และ Package Power Bank เพื่อประสิทธิภาพในการใช้งานที่ดีและมีความปลอดภัย