Power Bank ถือได้ว่าเป็นหนึ่งในแก็ดเจ็ตที่ทำให้หลายคนต้องประสบปัญหาในการเลือกซื้อเลือกหา และใช้งานพอสมควร เนื่องจากสินค้าที่มีการผลิตออกมาวางจำหน่ายจากแบรนด์ผู้ผลิต และโรงงานผู้ผลิตเจ้าต่างๆ นั้นขาดมาตรฐานที่ชัดเจน เรียกได้ว่าเกรดของสินค้านั้นมีหลากหลายและปะปนกันจนยากที่ผู้บริโภค หรือลูกค้าจะแบ่งแยกเกรดได้นั่นเอง อีกทั้งการตรวจสอบก็ทำได้ค่อนข้างยาก เพราะธรรมชาติตัวสินค้านั้นมีความซับซ้อนในการผลิตและประกอบชิ้นส่วนอยู่พอสมควร อย่างไรก็ตามแม้ว่า Power Bank จะเป็นแก็ดเจ็ตที่ไม่มีมาตรฐานเรื่องคุณภาพการผลิตที่ชัดเจนจนทำให้เป็นปัญหาน่าปวดหัวสำหรับผู้ใช้งานตามกล่าว แต่ขณะเดียวกันก็ยังถือว่าเป็นแก็ดเจ็ตที่ค่อนข้างจำเป็นสำหรับชีวิตประจำวันของใครหลายคน โดยเฉพาะกับวัยเรียน วัยทำงานที่มีไลฟ์สไตล์สัมพันธ์กับการใช้งานอุปกรณ์ไอทีทั้งในสถานที่ และนอกสถานที่แทบจะตลอดทั้งวัน เรียกว่าแม้จะเคยผ่านประสบการณ์การใช้งานแก็ดเจ็ตชิ้นนี้ที่ไม่ค่อยดีนักมาก่อน แต่ก็ต้องพยายามเสาะหา Power Bank คุณภาพดีสักอันไว้ตอบสนองไลฟ์สไตล์ประจำวันนั่นเอง ในบทความนี้จึงได้นำเอาวิธีสังเกตุคุณภาพ Power Bank ว่ามีมาตรฐานการใช้งานเป็นไปตามมาตรฐานขั้นต่ำที่ควรจะเป็นหรือไม่บอกกล่าวกัน
ระยะเวลารอชาร์จ วิธีแรก ซึ่งถือเป็นวิธีที่ง่ายที่สุดในการสังเกตุว่า Power Bank อันนั้นๆ มีมาตรฐานการใช้งานที่เป็นไปตามมาตรฐานที่ควรจะเป็นหรือไม่ก็คือ ให้ดูที่ระยะเวลาในการรอชาร์จไฟให้กับอุปกรณ์อื่น แน่นอนว่าโดยทั่วไปแล้ว การชาร์จไฟอุปกรณ์ เช่น สมาร์ทโฟน แท็บเล็ต ด้วย Power Bank จะใช้เวลานานกว่าการชาร์จด้วยอุปกรณ์ชาร์จ หรืออะแดปเตอร์ของตัวเอง เพราะปัจจุบันแบรนด์ผู้ผลิตสมาร์ทโฟน แท็บเล็ตแต่ละเจ้ามักมีการใส่ฟีเจอร์ฟาสชาร์จ หรือการชาร์จความเร็วสูงมากับอุปกรณ์ของตัวเองด้วย แต่ทั้งนั้นทั้งนี้ความแตกต่างกันของระยะเวลาก็ไม่ควรจะมากเกินไป ตัวอย่างเช่น หากชาร์จด้วยอุปกรณ์ตัวเองให้เต็ม 100% ใช้เวลาราว 40 นาที – 1 ชั่วโมง เมื่อเปลี่ยนมาใช้ Power Bank ในการชาร์จก็อาจใช้เวลาราว 1.30 ชั่วโมง (ในกรณีที่ตัวพาวเวอร์แบงค์มีปริมาณไฟเพียงพอสำหรับการชาร์จ) เป็นต้น หากใช้เวลาแตกต่างกันมากเกินไป เช่น ใช้เวลาเกินกว่า 2 ชั่วโมงขึ้นไป ก็เป็นไปได้ว่า Power Bank อันนั้นๆ อาจมีปัญหาเรื่องคุณภาพที่ไม่เป็นไปตามมาตรฐานมาตั้งแต่ขั้นตอนการผลิตแล้ว โดยในกรณีอาจดูที่ตัวเลขประสิทธิภาพการชาร์จที่ระบุไว้ในฉลาก ซึ่งจะมีการระบุตัวเลขเป็น W(วัตต์) หรือ V(โวลต์) ประกอบด้วย โดยเทียบกับตัวเลขของอุปกรณ์ชาร์จที่มากับตัวสมาร์ทโฟน หรือแท็บเล็ตว่ามีความแตกต่างกันมากน้อยแค่ไหน
ระยะเวลาในการเติมพลังงานให้กับตัวเอง อย่างที่ทราบกันดีว่าหลักการทำงานของ Power Bank จะเป็นทั้งตัว Input พลังงาน และ Output (ส่งต่อพลังงานให้อุปกรณ์อื่น) ดังนั้นอีกหนึ่งวิธีสังเกตุคุณภาพของตัว Power Bank จึงเป็นการดูที่การรับกระแสไฟ หรือเติมพลังงานให้ตัวเอง ซึ่งพาวเวอร์แบงค์ที่มีปัญหาเรื่องคุณภาพมาตั้งแต่ขั้นตอนการผลิตจะมีลักษณะเด่นอย่างนึงที่สังเกตุุเห็นได้ง่าย ซึ่งก็คือไม่สามารถเติมกระแสไฟให้เต็มได้ แม้ว่าจะใช้วเลาในการเสียบชาร์จนานเท่าไหร่ก็ตาม ขณะที่ Power Bank ที่มีประสิทธิภาพในการรับกระแสไฟ หรือเติมพลังงานให้ตัวเองตามมารฐานทั่วไปก็จะมีระยะเวลาการรอชาร์จตัวเองให้เต็ม 100% อยู่ที่ประมาณ 1-2 ชั่วโมง ดังนั้นหากเจอ Power Bank ที่ไม่สามารถชาร์จไฟตัวเองให้เต็มได้ก็ควรหลีกเลี่ยงการใช้งานทันที เพราะพาวเวอร์แบงค์ที่มีปัญหาในการ Input พลังงานมาตั้งแต่ขั้นตอนการผลิตอาจจะไม่ได้มีปัญหาแค่ในส่วนของการรับกระแสไฟเท่านั้น แต่อาจจะมีปัญหาทั้งระบบการรับ และจ่ายกระแสไฟ หรือการหมุนเวียนพลังงานภายในตัวแก็ดเจ็ต ซึ่งอาจสร้างความเสียหายให้กับอุปกรณ์ที่เรานำมาเสียบชาร์จต่อได้
Power Bank ที่นิยมใช้กันอย่างแพร่หลาย มีหลากหลายแบรนด์ แต่ที่ Power Bank ที่เป็นที่รู้จักและนิยมใช้กัน คือ Power Bank Eloop สามารถนำ Power Bank รุ่นนี้มาใช้ทำ Premium Power Bank ได้อีกด้วย