
แบตเตอรี่สำรองหรือ power bank เป็นอุปกรณ์สำคัญที่มีประโยชน์อย่างมากในปัจจุบัน เพราะไม่ว่าจะเป็นสมาร์ทโฟน แท็บเล็ต เครื่องเล่น MP3 หรือนาฬิกาสมาร์ทโฟนต่าง ๆ หากอยู่ในสถานการณ์จำเป็นก็ต้องพึ่งพาการชาร์จไฟจากแบตสำรองทั้งสิ้น แต่เนื่องจากอุปกรณ์แต่ละชิ้นออกแบบมาโดยมีพอร์ตหรือช่องสำหรับเสียบสายชาร์จที่แตกต่างกัน power bank จึงได้รับการออกแบบพอร์ตมาในรูปแบบ USB เพื่อความสามารถในการเชื่อมต่อที่หลากรูปแบบ และเพื่อให้รองรับแรงดันไฟและกระแสไฟระดับต่างๆ แต่ส่วนหัวของสายชาร์จ power bank จะมีลักษณะที่แตกต่างกันออกไปเพื่อให้รองรับกับอุปกรณ์ต่าง ๆ ดังนี้
- สายชาร์จ power bank แบบหัวเฉพาะรุ่น
สายชาร์จแบบหัวเฉพาะรุ่นก็คือสายชาร์จ power bank แบบเฉพาะสำหรับโทรศัพท์รุ่นนั้น ๆ เช่น ตระกูลแอปเปิ้ลอย่างไอโฟนและไอแพด ส่วนใหญ่จะใช้สายชาร์จ Power bank ที่เฉพาะ หรือที่เรียกว่าสายชาร์จ Lightning นั่นเอง ซึ่งเทคโนโลยีนี้ก็จะเป็นเทคโนโลยีเฉพาะของค่ายแอปเปิ้ลเลย หรือสายชาร์จ Power bank สำหรับโทรศัพท์รุ่นอื่น ๆ ที่มีพอร์ตแบบเฉพาะตัวที่ไม่สามารถใช้สายร่วมกับพอร์ตอื่นๆ ได้ อย่างเช่น แอนดรอยด์รุ่นใหม่ ๆ ที่จะมีพอร์ตเป็นแบบ Type-C นั่นเอง การเลือกซื้อ power bank ชนิดนี้ จึงต้องพิจารณาจากอุปกรณ์ที่เรามีเป็นหลัก ถ้าหากเรามีอุปกรณ์ที่มีพอร์ตแบบเฉพาะก็ต้องเลือกซื้อ power bank ที่มีสายชาร์จเฉพาะด้วย เพราะหากซื้อมาผิดแบบก็จะทำให้ไม่สามารถใช้งานได้ ทำให้สายชาร์จ power bank ประเภทนี้ไม่ค่อยเป็นที่นิยมนัก แต่สำหรับผู้ที่ใช้ไอโฟนหรือไอแพคก็เลี่ยงไม่ได้ที่มีความจำเป็นต้องใช้งานสายชาร์จแบตสำรองที่ออกแบบมาเฉพาะ เพราะฉะนั้นจึงต้องระวังในการเลือกสาย ไม่เลือกมาผิดจากรุ่นมือถือที่เราใช้
- สายชาร์จ power bank แบบ USB
หัวสายชาร์จแบบ USB คือสายชาร์จมาตรฐานในอุตสาหกรรมที่มีหน้าที่เชื่อมต่อรวมถึงเป็นแหล่งจ่ายพลังงานระหว่างคอมพิวเตอร์และอุปกรณ์อิเล็คทรอนิกส์ต่างๆ นอกจากนี้พอร์ตชนิด USB ยังมีการใช้งานแพร่หลายที่สุดในปัจจุบันอีกด้วย รวมถึงมือถือสมาร์ทโฟนและแท็บเล็ตก็สามารถใช้งานสายชาร์จ USB ได้เช่นกัน รวมถึงอุปกรณ์ power bank ด้วย หัวชาร์จ USB นี้จะมีพอร์ต USB พร้อมสาย Data link มาให้พร้อม สายด้านหนึ่งจะเป็นหัวสำหรับเสียบช่อง USB ที่ตัวเครื่องแบตสำรอง ส่วนอีกด้านเป็นหัวสำหรับเสียบโทรศัพท์และอุปกรณ์ต่างๆ power bank ชนิดนี้ได้รับความนิยมสูงมาก เพราะพอร์ต USB สามารถเชื่อมต่อเข้ากับอุปกรณ์ที่หลากหลายกว่า ทำให้ power bank รุ่นที่มีสายชาร์จแบบนี้ได้รับความนิยมในตลาดมากกว่านั่นเอง
เพราะสายชาร์จของ power bank มีหลากหลายแบบและหลายประเภท การเลือกใช้งานให้เหมาะกับอุปกรณ์อิเล็คทรอนิกส์ของเราจึงเป็นเรื่องที่ไม่ควรมองข้าม เพราะอุปกรณ์แต่ละอย่างก็มีช่องเชื่อมต่อแตกต่างกันไป หากเราเลือกใช้งานสายชาร์จ power bank ไม่เหมาะกับช่องหรือพอร์ต ก็จะทำให้เกิดข้อผิดพลาดในการใช้งาน เช่น เสียบไฟไม่เข้า หรือไม่สามารถเสียบสายชาร์จได้ เป็นต้น ดังนั้น การใช้ Power bank ให้ถูกวิธี ก็ควรต้องอ่านฉลากของ Power bank ตัวนั้น รุ่นนั้นก่อน เพื่อให้ได้การใช้งานที่ถูกต้อง
Power bank อุปกรณ์สำหรับการสำรองไฟ เพื่อใช้งานกับเครื่องมืออิเล็กทรอนิกส์ต่างๆ ซึ่ง Power bank จะมีหลักการทำงานคล้ายกับแบตเตอร์รี่นั่นเอง ในปัจจุบัน คนมีความนิยมในการใช้ Power bank กันเป็นจำนวนมา แถมยังมีการผลิต Power bank ออกมาหลายรุ่น หลายยี่ห้อ เพื่อให้เราสามารถเลือกซื้อ เลือกหามาใช้งานกันได้ตามสบายใจ บางทีก็มีการนำ Power bank ไปจัดทำ Gift Set สำหรับแจกก็มี แต่ด้วยความที่ Power bank มีคำโฆษณา รวมถึงมีคุณสมบัติต่างๆ มากมายที่แปะเป็นฉลากอยู่ข้าง Power bank นั้น ถ้าเราไม่มีความเข้าใจว่ามันคืออะไร คงจะเป็นเรื่องยากนะครับที่จะทำให้เรารู้คุณสมบัติ และสามารถตัดสินใจได้ยากว่าเราควรจะเลือกซื้อ Power bank อันไหน ซึ่งในวันนี้เราจะมาดูกันว่า การอ่านคุณสมบัติบนฉลากด้านข้างของ Power bank นั้น อ่านได้อย่างไรบ้าง
- ความจุ 5000 mAh หมายถึงปริมาณไฟฟ้าที่สามารถจุได้ใน Power bank แต่ทั้งนี้เราจะต้องเข้าใจว่าในทางปฏิบัติจริงๆ ความสามารถของเจ้า Power bank จะไม่เต็มร้อย จะสามารถใช้ได้เพียงแค่ 60 – 70 เปอร์เซ็นต์เท่านั้น
- รองรับไอโฟน ไอแพด สาเหตุที่ฉลากของเจ้า Power bank จะต้องมีคำนี้เป็นเพราะว่า ไอโฟน ไอแพด จะใช้แบตเตอร์รี่ขนาด 5 โวลต์ ซึ่งมากกว่าโทรศัพท์ทั่วไป จึงมีการใช้พลังงานมาก ดังนั้น Power bank ก็จะต้องมีขนาดที่รองรับตามไปด้วย
- ชาร์จได้พร้อมกัน 2 เครื่อง คุณสมบัติในข้อนี้หมายถึง Power bank มีช่องสำหรับการเสียบสายที่สามารถชาร์จได้พร้อมกันทั้งสองเครื่อง แต่เราก็จะต้องดูให้ดีนะครับว่าแต่ละช่องมีปริมาณการจ่ายไฟเท่าไร ซึ่งส่วนใหญ่จะอยู่ที่ 1A หรือ 2.1A
- ประเภทของแบตเตอร์รี่ Power bank ซึ่งโดยส่วนใหญ่แล้ว Power bank จะมีแบตเตอร์รี่ 2 แบบ คือ ลิเธียมไอออน กับ ลิเธียมไออนโพลีเมอร์ ซึ่งจะมีคุณสมบัติเพิ่มเติมที่ดีมาก คือ คายประจุได้ช้ามาก โดยเมื่อเราชาร์จไฟไว้เต็ม 100 เปอร์เซ็น ทิ้งไว้ประมาณ 1 เดือน Power bank ชนิดนี้จะคายประจุออกเพียง 5 เปอร์เซ็น เท่านั้น
Premium Power Bank เป็นอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์อีกชนิดหนึ่งที่มีความนิยมใช้กันเป็นอุปกรณ์เสริม การที่เราเข้าใจความหมายของคุณสมบัติต่างๆ จะช่วยให้เราสามารถเลือกซื้อ Power bank ได้ถูกต้องตามวัตถุประสงค์การใช้งานของเรามากที่สุด สามารถใช้งานได้นานมากขึ้นนั่นเอง
รายการสินค้า