blog

Power Bank ถือได้ว่าเป็นแก็ดเจ็ตชิ้นนึงที่ทำให้หลายคนต้องประสบพบเจอกับปัญหาในการเลือกซื้อ เลือกหาว่าควรจะต้องตัดสินใจซื้ออันไหนดี หรือยี่ห้อไหนดี? เพราะแม้ว่าเราจะสามารถค้นหาข้อมูลเกี่ยวกับการเลือกซื้อ Power Bank หรือสอบถามจากบรรดาคอไอทีที่เราพอรู้จักได้ไม่ยาก แต่ด้วยความที่ปัจจุบันแบรนด์ผู้ผลิตแก็ดเจ็ตไอทีแตกต่างไปจากช่วงหลายปีก่อน มีแบรนด์หน้าใหม่ที่เราไม่คุ้นชื่อมาวางจำหน่ายสินค้าในตลาดอยู่มากมาย ขณะที่แบรนด์ไอทีเจ้าดังที่เคยคุ้นหูกันดีกลับมีสินค้าหมวดแก็ดเจ็ตมาวางจำหน่ายในตลาดน้อย จึงทำให้หลายคนยังคงรู้สึกลังเลในเรื่องความปลอดภัย และตัดสินใจซื้อได้ยากอยู่ดี ในบทความนี้จึงได้คัดเอาแบรนด์ผู้ผลิตแก็ดเจ็ต Power Bank คุณภาพดีที่สามารถมั่นใจเรื่องของความปลอดภัยได้ในระดับนึงจากฟีดแบ็กของผู้ใช้งานมาแนะนำให้ได้ทราบ และใช้เป็นแนวทางประกอบการตัดสินใจเลือกซื้อ  Permium Power Bank คู่ใจสักตัวกัน

Power Bank Eloop แบรนด์แรกที่เลือกมาแนะนำกันก็คือ eloop ซึ่งเป็นแบรนด์ผู้ผลิต Power Bank ที่อาจจะพอมีกลุ่มลูกค้าคุ้นหูกันบางแล้ว แม้ว่าจะไม่ใช่แบรนด์ที่เคยผ่านประสบการณ์ผลิตไลน์สินค้าอุปกรณ์ไอทีที่ติดตลาดเหมือนแบรนด์ไอทีชื่อดังต่างๆ มาก่อน แต่หากนับเฉพาะผลงานผลิตภัณฑ์ Power Bank ก็ต้องจัดให้เป็นแบรนด์ลำดับต้นๆ ที่ไว้วางใจเรื่องคุณภาพและความปลอดภัยได้ เพราะนับตั้งแต่แก็ดเจ็ตชิ้นนี้ถือกำเนิดขึ้นมา Eloop ก็ได้มีการพัฒนาสินค้าของตนเองออกมาวางจำหน่ายแล้วหลากหลายรุ่น และก็ได้รับฟีดแบ็กที่ดีจากกลุ่มลูกค้า หรือผู้ใช้งานมาโดยตลอด โดยปัจจุบัน(ปี 2023) Eloop มีสินค้าในชื่อโมเดล E29 ออกมาวางจำหน่าย ซึ่งเป็น Power Bank ที่มีความจุพลังงานสูงถึง 30,000 มิลลิแอมป์เลยทีเดียว จึงถือเป็นอีกตัวเลือกที่น่าสนใจสำหรับคนที่ต้องการมองหาพาวเวอร์แบงค์ที่มีความจุไฟสูงๆ สำหรับการชาร์จอุปกรณ์อย่างสมาร์ทโฟนได้มากกว่า 2-3 รอบขึ้นไป

Yoobao เรียกได้ว่าเป็นแบรนด์หน้าใหม่ที่อาจจะไม่คุ้นหูใครหลายคนสำหรับ yoobao แต่หากว่ากันที่คุณภาพ ฟีดแบ็กที่ได้รับจากผู้ใช้งานในช่วง 1-2 ปีหลัง ก็ถือว่าต้องยกให้เป็นอีกหนึ่งแบรนด์ Power Bank ที่น่าสนใจเลือกซื้อเลือกหามาใช้งาน โดยพาวเวอร์แบงค์ของ yoobao มีข้อดีตรงที่ดีไซน์ที่สวยเรียบตามแบบฉบับแก็ดเจ็ตสมัยใหม่ และในบางรุ่นเลือกใช้วัสดุโลหะทำให้ค่อนข้างมีความแข็งแรงในระดับที่น่าพอใจทีเดียว ปัจจุบันรุ่นที่น่าสนใจและมีวางจำหน่ายอยู่ในร้านอุปกรณ์ไอทีทั่วไปก็คือ Yoobao P2T ความจุพลังงาน 20,000  มิลลิแอมป์ รองรับทั้งพอร์ตการชาร์จแบบ USB-B และ USB-C

Xiaomi และอีกหนึ่งแบรนด์แนะนำที่หลายคนน่าจะพอรู้จัก คุ้นหูกันดีอยู่แล้วก็คือ Xiaomi นั่นเอง ทั้งนี้ Xiaomi ถือเป็นแบรนด์ผู้ผลิตอุปกรณ์ไอทีและแก็ดเจ็ตยักษ์ใหญ่ในตลาดเอเชีย ซึ่งมีผลิตภัณฑ์ครอบคลุมแทบจะทุกชนิด ทุกประเภท เช่นเดียวกับ Power Bank ทางแบรนด์ก็ได้ทำออกมาวางจำหน่ายแข่งกับแบรนด์หน้าใหม่ในหลากหลายรุ่น และมีการพัฒนา อัพเดทสเปคผลิตภัณฑ์ของตนเองมาอย่างต่อเนื่อง และด้วยความที่เป็นแบรนด์ชื่อดังนี่เองทำให้กลุ่มผู้ใช้งานหลายคนไว้วางใจเลือกใช้งาน ซึ่งข้อดีของ Power Bank จากแบรนด์ Xiaomi ก็คือดีไซน์ที่สวยเรียบ มีความเป็นมินิมอลในแบบฉบับของ Xiaomi และมาตรฐานการผลิตที่ได้มาตรฐานสากล โดยรุ่น power bank ที่น่าสนใจจากค่าย Xiaomi ในปี 2023 นี้ก็คือ Xiaomi Power Bank 20,000 พาวเวอร์แบงค์ความจุ 20,000 มิลลิแอมป์ตามชื่อรุ่น ที่มาพร้อมกับเทคโนโลยี Quick Charge 3.0 และพอร์ต USB-A 2 พอร์ต พร้อมรองรับการชาร์จระบบไร้สายร่วมกับอุปกรณ์ของ Xiaomi อีกด้วย

ในการเลือกซื้อเลือกหา Power Bank สักอันไว้ใช้งานแน่นอนว่าข้อจำกัดอย่างนึงที่ทำให้หลายคนตัดสินใจได้ยากก็คือเรื่องความเหมาะสมกับอุปกรณ์ที่จะนำมาใช้งาน หรือเสียบชาร์จ เพราะ Power Bank แต่ละรุ่นแต่ละยี่ห้อที่ถูกผลิตออกมาวางจำหน่ายก็มีความเหมาะสมกับลักษณะการใช้งานที่แตกต่างกัน เรียกว่าพาวเวอร์แบงค์หนึ่งตัวนั้นอาจจะไม่ได้เหมาะกับการใช้งานชาร์จได้กับทุกอุปกรณ์ ตัวอย่างเช่น บางตัวอาจมีความเร็วในการชาร์จสูง เช่น 30W, 50W หรือ 65W แต่มีปริมาณความจุไฟน้อย ก็ไม่เหมาะสำหรับการใช้งานชาร์จอุปกรณ์ขนาดกลางขึ้นไปอย่างแท็บเล็ต ไอแพด เพราะแม้ว่าความเร็วในการชาร์จจะเหมาะสมกับอุปกรณ์ แต่ปริมาณความจุไฟที่น้อยเกินไปก็จะทำให้ไม่สามารถชาร์จได้เต็มรอบของอุปกรณ์นั้นๆ การเลือกหา Power bank ที่สามารถปรับใช้งานได้กับทุกอุปกรณ์ที่เรามี จึงถือเป็นเป็นปัญหาสำคัญสำหรับหลายๆ คน ในบทความนี้เลยได้นำเอาสเปคแนะนำของ power bank เจนเนอเรชั่นใหม่ๆ ที่เหมาะสำหรับปรับใช้งานกับหลายๆ อุปกรณ์ รวมถึงเคล็ดลับในการเลือกซื้อที่จะช่วยให้ได้พาวเวอร์แบงค์คุณภาพดีตรงสเปคที่ต้องการ สามารถนำมาทำเป็น Premium Power Bank เพื่อมอบเป็น gift set ของขวัญได้อีกด้วย

Power Bank ที่มีกำลังวัตต์สูง 200 วัตต์ ถ้าพูดถึงมาตรฐานความเร็วในการชาร์จอุปกรณ์ต่างๆ ในช่วง 1-2 ปีหลัง เราอาจคุ้นเคยกับความเร็วระดับ 30 วัตต์ สำหรับอุปกรณ์ขนาดเล็กอย่างสมาร์ทโฟนแอนดรอยน์ หรือไอโฟน และ 65 วัตต์ สำหรับอุปกรณ์ที่มีขนาดใหญ่ขึ้นมาหน่อยอย่างแท็บเล็ต อย่างไรก็ตามปัจจุบันมีแบรนด์ผู้ผลิตแก็ดเจ็ตอย่าง Power Bank พัฒนารุ่นที่มีกำลังชาร์จสูงสุดถึง 200 วัตต์ออกมาวางจำหน่าย ซึ่งสามารถตอบโจทย์การใช้งานร่วมกับอุปกรณ์ที่หลากหลายกว่า เพราะโดยสเปคพื้นฐานของพาวเวอร์แบงค์มักจะมาพร้อมกับพอร์ตเสียบชาร์จมากกว่า 1 พอร์ตขึ้นไป ทำให้กำลังการชาร์จจริงในแต่ละพอร์ตไม่ตรงกับสเปคที่ระบุ(ถูกแบ่งกระจายไปแต่ละพอร์ต) การมีกำลังชาร์จสูงถึงกว่า 200 วัตต์ ซึ่งอาจเป็นตัวเลขที่หลายคนมองว่าเกินความต้องการใช้งานจริงไปสักหน่อยนั้นจึงถือว่าใช้งานจริงได้ดีกว่า และเอื้อต่อการปรับใช้กับหลายอุปกรณ์มากกว่า โดยเฉพาะกับอุปกรณ์ขนาดใหญ่อย่างแล็ปท็อปวินโดวส์ หรือแมคบุ๊ค ซึ่งมีขนาดความจุแบตเตอรี่ที่ใหญ่ และแน่นอนว่า Power Bank ที่มีกำลังจ่ายไฟต่ำกว่า 100 วัตต์ลงไปไม่เพียงพอสำหรับการชาร์จ โดยเฉพาะกับการชาร์จไปพร้อมๆ กับใช้งานไปด้วย กำลังการจ่ายไฟในระดับ 50-60 วัตต์ก็แทบจะไม่ได้ช่วยให้เปอร์เซ็นต์แบตเตอรี่เพิ่มขึ้นเลย

มีปริมาณความจุไฟตั้งแต่ 25,000 มิลลิแอมป์ขึ้นไป Power Bank สำหรับใช้งานชาร์จสมาร์ทโฟน หากมีความจุอยู่ที่ปริมาณ 15,000 มิลลิแอมป์ก็ถือว่าเพียงพอสำหรับการชาร์จได้เต็ม 1-2 รอบแล้ว เพราะโดยทั่วไปแล้วสมาร์ทโฟนรุ่นใหม่ๆ จะให้ความจุมาที่ประมาณ 5,000-7,000 มิลลิแอมป์ แต่หากเราต้องการได้ Power Bank ที่สามารถใช้งานได้กับอุปกรณ์อื่นๆ เช่น แท็บเล็ต แล็ปท็อป หรือโน๊ตบุ๊คด้วยแล้วก็ควรจะเลือกรุ่นที่มีสเปคความจุมากกว่า 25,000 มิลลิแอมป์ขึ้นไป เพื่อที่อย่างน้อยก็สามารถชาร์จอุปกรณ์ขนาดใหญ่ได้สัก 1 รอบ อย่างไรก็ตามนอกเหนือจากสเปคแนะนำดังกล่าวแล้ว การตัดสินใจเลือกซื้อ Power Bank จากแบรนด์ใดๆ ก็ควรสังเกตจุดต่างๆ ประกอบด้วย เพื่อให้ได้สินค้าคุณภาพ มีมาตรฐานการผลิตที่ปลอดภัย โดยอาจเริ่มสังเกตุง่ายๆ จากราคาจำหน่ายที่ควรมีความสมเหตุสมผล ไม่ถูกจนเกินไป ดังสเปคตามตัวอย่างที่กล่าวมานี้ก็ควรมีราคาจำหน่ายไม่ต่ำกว่า 1,200 บาทขึ้นไป, วัสดุ งานประกอบควรมีความเรียบร้อย และดูแข็งแรง ไม่ควรมีรอยต่อที่ไม่แนบสนิท หรือมีรูโหว่ระหว่างชิ้นส่วนต่างๆ เพราะอาจส่งผลต่อความปลอดภัยในการใช้งานได้

Power Bank หรือแบตสำรอง อุปกรณ์ชนิดหนึ่งที่หลายคน โดยเฉพาะผู้ที่ใช้งานอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์มากมาย ไม่ใช่เพียงแค่เฉพาะสมาร์ทโฟน หรือแทปเล็ตเพียงเท่านั้น แต่ในปัจจุบันอุปกรณ์ชนิดนี้ ยังสามารถที่จะนำมาชาร์จแบตเตอรี่สำหรับหลายอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์อีก ไม่ว่าจะเป็นคอมพิวเตอร์ กล้องถ่ายรูป ที่จำเป็นต้องได้รับแบตเตอรี่ค่อนข้างสูง ปัจจุบัน Power Bank ก็ได้ถูกพัฒนาให้สามารถชาร์จกับอุปกรณ์เหล่านี้ได้แล้ว

หลายองค์กรหรือหลายแบรนด์ ที่ใช้กลยุทธ์การมอบของพรีเมี่ยมให้กับลูกค้า จะเพื่อการสร้างการมองเห็น หรือเพื่อการสัมมนาคุณลูกค้าก็ตาม การเลือก Power Bank เพื่อใช้เป็นของพรีเมี่ยมนั้น จะว่าได้รับความนิยมก็ไม่ถูกเสียทีเดียว เพราะบางแบรนด์เท่านั้นที่เลือกใช้อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ โดยเฉพาะ Power Bank มาใช้เป็นของพรีเมี่ยม วันนี้เราจะชวนคุณมาเลือกอุปกรณ์ชนิดนี้ เพื่อใช้ในการโปรโมทแบรนด์ หรือใช้ในการทำกลยุทธ์เป็นของพรีเมี่ยม เพราะว่ามันเป็นอะไรที่ค่อนข้างได้ผลดีจริงๆ และวันนี้เราจะมาคุยกัน ว่าทำไมคุณจึงควรเลือก Power Bank มาใช้เป็นของพรีเมี่ยม

ผู้ที่ได้รับสามารถที่จะหยิบไปใช้งานได้อย่างแน่นอน

หลายครั้งที่เรามอบของพรีเมี่ยมให้กับลูกค้า โดยเฉพาะอย่างยิ่งหากเป็นของประดับ ค่อนข้างเป็นอะไรที่มีความสุ่มเสี่ยงสูง เนื่องจากมีเปอร์เซ็นต์สูงเลยทีเดียว ที่ลูกค้าอาจจะได้รับของเหล่านี้ไปแล้ว ไม่ได้หยิบมาใช้งานจริง และเมื่อลูกค้าไม่ได้หยิบของเหล่านี้มาใช้งาน ก็เท่ากับว่ากลยุทธ์ของพรีเมี่ยมของเราไม่ได้ผล แต่อย่างน้อย หากเราเลือก Power Bank ซึ่งเป็นของใช้ที่หลายคนพกพาไปไหนมาไหนมาใช้ อย่างน้อยก็การันตีได้ว่า ผู้ที่ได้รับสินค้าชนิดนี้ไป จะสามารถหยิบสิ่งนี้มาใช้งานได้อย่างแน่นอน เรียกว่าได้ประโยชน์กันทั้งสองฝ่าย

สามารถสร้างการมองเห็นได้เป็นอย่างดี

อันนี้จะต่อกับข้อแรก เมื่อลูกค้านั้นหยิบของพรีเมี่ยมของเรามาใช้งาน หรือในที่นี้ก็คือ Power Bank ผลที่ได้รับต่อมาคือ กลยุทธ์ของพรีเมี่ยมของเราประสบความสำเร็จ นั่นคือสามารถสร้างการมองเห็นได้เป็นอย่างดี และโดยปกติ เวลาผู้คนหยิบแบตสำรองนี้มาใช้ คนมักจะถือ หรือวางไว้ที่ไหนตอนไหน เวลาที่ชาร์จเข้ากับมือถือหรือสมาร์ทโฟน ทำให้เป็นการสร้างการมองเห็นได้เป็นอย่างดีไปอีก ดังนั้นนี่จึงเป็นอีกหนึ่งข้อดี ของการเลือกแบตสำรองมาเป็นของพรีเมี่ยม

ใช้ได้กับหลายอุปกรณ์

สิ่งหนึ่งที่เราควรที่จะต้องคำนึงมากที่สุด เมื่อเราจะมอบของชิ้นไหนให้กับลูกค้า คือเรื่องของความคุ้มค่า สามารถใช้งานได้จริง และอำนวยความสะดวกให้กับลูกค้าของเราได้มากที่สุด Power Bank เป็นสิ่งที่อำนวยความสะดวกให้กับลูกค้าได้อย่างแน่นอน ไม่ใช่แค่เพียงใช้ในการชาร์จมือถือเท่านั้น อย่างที่บอกว่าอุปกรณ์ชนิดนี้ ในปัจจุบันได้ถูกพัฒนา เพื่อใช้ในการชาร์จอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์อีกมากมายหลากหลาย อย่างพวกกล้องถ่ายรูปหรือโน้ตบุ๊ค

เป็นอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ที่ราคาไม่แพงมากนัก

หลายคนอาจจะเถียงว่า Power Bank ตัวนึงก็ไม่ใช่ถูกๆ ที่จะนำมาทำเป็น Premium Power Bank อันนั้นก็เป็นข้อเท็จจริง แต่เราจำเป็นที่จะต้องเปรียบเทียบกับอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ชิ้นอื่น หากเทียบกันแบบนี้แล้ว แบตสำรองนับว่าเป็นอะไรที่มีความคุ้มค่า และดีต่อการลงทุน เพื่อมอบเป็นของขวัญให้กับลูกค้าเป็นอย่างมาก แต่ถึงในแง่ของการเป็นอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ จะไม่ได้แพงมากนักก็ตาม ไม่ว่าอย่างไรเราก็ควรเลือกของที่มีคุณภาพให้กับลูกค้า

มีให้เลือกเยอะในท้องตลาด และมีความหลากหลายมาก

ข้อดีอีกอย่างหนึ่งของการเลือกแบตสำรองมาเป็นของพรีเมี่ยม คือในท้องตลาดมีมาก เมื่อมีอยู่มาก ตัวเลือกในการจัดหา เพื่อมอบให้กับลูกค้าจึงมีมากตามไปด้วย ความหลากหลายนี้เป็นข้อดีในแง่ของผู้เป็นเจ้าของแบรนด์ เพื่อที่จะได้คัดสรรสิ่งที่ดีที่สุดให้กับลูกค้าได้ พาวเวอร์แบงค์ที่นิยมนำมาทำของพรีเมี่ยมก็มีหลายแบรนด์ เช่น POWER BANK ELOOP  ที่ได้มาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม (มอก.) ปลอดภัย เชื่อถือได้ และมีความแข็งแรงสำหรับการใช้งาน

Power Bank นับว่าเป็นอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ชนิดหนึ่ง ที่หลายคนมักจะพกติดตัวกันอยู่เสมอ พร้อมกับทั้งนิยมที่จะใช้งานอุปกรณ์ชนิดนี้กันอย่างมาก หลายคนคิดว่า เพียงแค่เราต้องการชาร์จแบตอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์อื่น อาจจะเป็นมือถือสมาร์ทโฟน แท็บเล็ต หรืออาจจะเป็นพวกคอมพิวเตอร์โน้ตบุ๊ค เราก็เพียงแค่ทำการเสียบ Power Bank โดยที่ลืมคำนึงถึงเรื่องของการดูแลรักษา และการเลือกใช้แบตสำรองของเราอย่างถูกต้อง

รู้หรือไม่ว่าแท้จริงแล้ว มีหลักการในการใช้ Power Bank อย่างถูกต้องด้วย เราอาจจะเคยเห็นในข่าว ที่ว่ามีการใช้ Power Bank จนอาจเกิดการระเบิดขึ้น ส่วนหนึ่งมาจากอุปกรณ์แบตสำรองนั้นด้อยคุณภาพ และเป็นแบรนด์ที่ไม่ได้มาตรฐานเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว แต่ก็อาจมีอีกหลายปัจจัย ปัจจัยหนึ่งที่ผู้คนมักจะละเลยกันคือ การใช้งานแบตสำรองอย่างไม่ถูกวิธี นั้นอาจนำมาซึ่งอันตราย ทั้งต่อตัวผู้ใช้งานเอง และอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์อื่นที่เราเสียบชาร์จด้วย หากเลวร้ายที่สุด ก็อาจเกิดการระเบิดและเกิดเพลิงไหม้ขึ้นได้ ดังนั้นเพื่อความปลอดภัย ของตัวผู้ใช้งานและอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์อื่น วันนี้เราจะมาทำความเข้าใจ และแนะนำเกี่ยวกับข้อควรปฏิบัติ ในการชาร์จแบตเตอรี่ และการใช้งาน Power Bank อย่างถูกวิธีกัน

การชาร์จ Power Bank

ตรงนี้เป็นสิ่งที่สำคัญมาก คือเราควรชาร์จไฟ Power Bank ให้เต็มอยู่เสมอ ก่อนที่เราจะหยิบสิ่งนี้มาใช้งาน หากว่าในตัวแบตสำรองของเรา มีพลังงานหรือแบตเตอรี่เหลือต่ำกว่า 30 เปอร์เซ็นต์ ทางที่ดีควรจะหยุดใช้งานทันที เพื่อป้องกันไม่ให้แบตสำรองของเราเกิดการเสื่อมคุณภาพลงเรื่อยๆ เกิดการคลายประจุมากขึ้นเรื่อยๆ และท้ายที่สุดอาจเกิดอันตรายบางอย่างได้

อันที่จริงไม่ใช่แค่เพียงกับอุปกรณ์แบตสำรองเท่านั้น อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์อื่นที่มีแบตเตอรี่อยู่ภายใน เราก็ไม่ควรให้แบตเตอรี่อยู่ในระดับที่ต่ำจนเกินไปแล้วค่อยชาร์จไฟ เพราะจะทำให้แบตเตอรี่เสื่อมเร็วเช่นเดียวกัน

ต่อไปคือ ควรที่จะถอดสายไฟออก เมื่อทำการชาร์จไฟให้กับ Power Bank ของเราเต็มแล้ว และเราห้ามเสียบสายไฟชาร์จค้างไว้เป็นอันขาด เพราะอาจจะทำให้เกิดความร้อนสูงขึ้นได้ และเลวร้ายกว่านั้นอาจเกิดไฟฟ้าลัดวงจรขึ้นได้ด้วย ส่งผลให้เกิดอันตรายบางอย่างขึ้น อย่างที่เราคาดไม่ถึงเลย

และทางที่ดีคือ เราไม่ควรชาร์จไฟแบตเตอรี่สำรอง ในบริเวณที่มีความร้อนสูงอยู่แล้ว ยกตัวอย่างเช่น ไม่ควรนำไปชาร์จไว้บนเคสคอมพิวเตอร์ หรือชาร์จไฟรถยนต์ในขณะที่จอดตากแดดไว้กลางแจ้ง หรือบริเวณที่แดดส่องถึง เพราะความร้อนที่มากจนเกินไป อาจทำให้แบตสำรองของเราเกิดความเสียหาย และอาจจะเกิดระเบิดในท้ายที่สุดได้ ซึ่งเป็นอันตรายอย่างมากเลยทีเดียว

และข้อสุดท้าย เราห้ามเด็ดขาด ที่ชาร์จอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ของเรา ผ่านแบตสำรองที่กำลังชาร์จไฟอยู่อีกที ยกตัวอย่างเช่น เราห้ามชาร์จสมาร์ทโฟนผ่านแบตสำรอง ขณะที่แบตสำรองกำลังเสียบชาร์จไฟอยู่ เพราะนั่นจะเป็นการทำให้แบตสำรองของเราทำงานหนักจนเกินไป ดีไม่ดีอาจเกิดการระเบิดหรือเสียหายได้

การใช้งาน Power Bank อย่างถูกต้อง

เราสามารถตรวจสอบได้เบื้องต้น โดยตรวจเช็กลักษณะภายนอกของตัวแบตสำรองของเรา ว่าเกิดมีอาการบวม หรือรอยปริขณะใช้งาน หรืออาจมีความร้อนสูงเกินไปหรือไม่ นี่เป็นจุดเบื้องต้นที่เราสามารถสังเกตการกักเก็บประจุไฟฟ้าของแบตสำรองของเราได้ และแน่นอนว่าเราไม่ควรนำแบตสำรองที่เสื่อมคุณภาพมาใช้งาน ซึ่งโดยทั่วไปแล้วมันจะมีอายุการใช้งานอยู่ที่ประมาณ 2 ปี หากนำมาใช้อาจก่อให้เกิดอันตรายต่อตัวผู้ใช้งานได้

ทั้งนี้ทั้งนั้น การที่เราชาร์จไฟและใช้งานแบตสำรองของเราอย่างถูกต้องถูกวิธีแล้ว จะช่วยป้องกันการเสื่อมสภาพของแบตสำรองของเราได้ และสิ่งนี้เป็นการลดความเสี่ยงต่อการเกิดไฟฟ้าลัดวงจร หรือการระเบิด ซึ่งอาจส่งผลร้ายต่อตัวผู้ใช้งานและอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ได้ด้วย นอกจากการชาร์จไฟจะสำคัญแล้ว การเลือกซื้อแบรนด์ Power Bank ก็มีความสำคัญอย่างมากเช่นกัน เราจะต้องเลือกแบรนด์น่าเชื่อถือได้ เช่น Power Bank Eloop แบรนด์ที่ได้รับความนิยม พร้อมมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม (มอก.) ปลอดภัย สามารถใช้งานได้อย่างสบายใจ  ไม่ว่าจะใช้เองหรือทำเป็นของพรีเมี่ยมจัด Gift set ของขวัญของแจกได้อีกด้วย

แม้ว่าแก็ดเจ็ตชาร์จไฟสำรองอย่าง Power Bank ที่มีวางจำหน่ายอยู่ทั่วไปนั้นส่วนใหญ่แล้วจะทำมาเพื่อรองรับการใช้งานชาร์จอุปกรณ์พกพาที่หลากหลาย ซึ่งนับรวมถึงสมาร์ทโฟน แท็บเล็ต และแล็ปท็อปด้วย แต่หลายคนก็พอจะทราบกันดีว่าในการใช้งานจริงนั้น Power Bank หลายรุ่น หลายยี่ห้อดูจะไม่ค่อยเหมาะกับการชาร์จไฟให้อุปกรณ์ที่มีขนาดใหญ่สักเท่าไหร่ เนื่องจากปริมาณความจุไฟ หรือแบตเตอรี่ที่มีค่อนข้างจำกัด และความเร็วในการจ่ายกระแสไฟที่ไม่สูงนักทำให้ระยะเวลาการรอชาร์จค่อนข้างนาน เรียกว่าหากจะพกพา Power Bank ไว้สำหรับใช้ชาร์จแท็บเล็ต ไอแพด หรือแล็ปท็อปก็สู้พกอะแดปเตอร์ชาร์จไฟของอุปกรณ์นั้นๆ เองดีกว่า อย่างไรก็ตามบ่อยครั้งที่การพกพาอะแดปเตอร์ชาร์จไฟของอุปกรณ์ต่างๆ อาจทำให้หลายคนรู้สึกไม่สะดวก ไม่ว่าจะด้วยขนาดที่ใหญ่เกิน ความยาวของสายที่มากเกินความจำเป็น หรือปัญหาเรื่องเต้าเสียบไฟที่ไม่สามารถหาได้ในบางสถานที่ จึงทำให้หลายคนพยายามมองหาพาวเวอร์แบงค์ที่เหมาะสำหรับการใช้งานกับอุปกรณ์ขนาดใหญ่ไว้พกติดตัวสักอัน ซึ่งในบทความนี้เองก็ได้นำเอาวิธีเลือกซื้อ Power bank ที่เหมาะสำหรับการชาร์จไฟอุปกรณ์พกพาขนาดใหญ่มาแนะนำให้หลายคนได้นำไปใช้เป็นแนวทางในการเลือกหาพาวเวอร์แบงค์สักตัวไว้ใช้งานกับไอแพด หรือแท็บเล็ตคู่ใจของตัวเอง

เลือกที่มีปริมาณความจุไฟมากพอ ความแตกต่างที่ชัดเจนอย่างแรกระหว่างอุปกรณ์พกพาขนาดเล็กอย่างสมาร์ทโฟน และอุปกรณ์ขนาดใหญ่อย่างไอแพด หรือแท็บเล็ตก็คือขนาดแบตเตอรี่ ซึ่งแน่นอนแบตเตอรี่ของไอแพด หรือแท็บเล็ตนั้นมีขนาดใหญ่กว่า ดังนั้นการเลือกหา Power Bank สำหรับไว้ชาร์จไฟกับอุปกรณ์เหล่านี้ก็ควรต้องมีปริมาณความจุไฟที่สูงพอ โดยปริมาณที่แนะนำจะอยู่ที่ 15,000 Mah ขึ้นไป ซึ่งหากเป็นรุ่นที่ต่ำกว่านี้ก็ค่อนข้างแน่นอนว่าไม่เพียงพอต่อการใช้งาน โดยอาจใช้ชาร์จแบตฯให้กับอุปกรณ์เพิ่มได้เพียง 20-30% ปริมาณแบตฯในตัวพาวเวอร์แบงค์ก็หมดลงแล้ว

ความเร็วในการรับส่งกระแสไฟ สำหรับความเร็วในการชาร์จไฟให้กับอุปกรณ์สมาร์ทโฟนรุ่นใหม่ๆ เราอาจจะคุ้นเคยกับระดับความเร็วที่ 25 วัตต์, 30 วัตต์ ซึ่งก็ทำให้รู้สึกได้แล้วว่าใช้เวลาในการชาร์จค่อนข้างเร็วเมื่อเทียบกับระบบชาร์จเดิมๆ ในช่วงหลายปีก่อน แต่สำหรับอุปกรณ์ขนาดใหญ่อย่างแท็บเล็ต ไอแพด ที่มีขนาดแบตเตอรี่ใหญ่ตามตัวไปด้วยนั้น แน่นอนหากชาร์จด้วย Power Bank ที่มีระดับความเร็วดังที่ยกตัวอย่างนั้น ก็ยังคงทำให้เราต้องรอเวลาในการชาร์จนานอยู่ดี ดังนั้นความเร็วในการจ่ายกระแสไฟของ Power Bank สำหรับใช้งานกับอุปกรณ์ขนาดใหญ่จึงควรมากกว่าระดับที่ยกตัวอย่างมา โดยความเร็วแนะนำอยู่ที่ 80 วัตต์ขึ้นไป ทั้งนี้ Power Bank บางแบรนด์ บางรุ่นนที่พัฒนาขึ้นมาเพื่อใช้งานสำหรับอุปกรณ์ขนาดใหญ่โดยเฉพาะ อาจมีความเร็วในการจ่ายไฟสูงถึง 200 วัตต์เลยทีเดียว แต่ก็มาพร้อมก็ราคาที่สูงด้วยเช่นกัน อย่างไรก็ตามจำนวนวัตต์ของ Power Bank ก็ไม่ใช่ตัวกำหนดความเร็วในการชาร์จทั้งหมดซะทีเดียว ประสิทธิภาพในการรับกระแสไฟของตัวอุปกรณ์นั้นๆ ก็มีผลต่อระยะเวลาในการรอชาร์จด้วยเช่นกัน หรือว่ากันง่ายๆ ก็คืออุปกรณ์แท็บเล็ต หรือไอแพดเจนใหม่ๆ ที่มีการพัฒนาตัวแบตเตอรี่และประสิทธิภาพในการรับกระแสไฟ รวมถึงเทคโนโลยีในส่วนของพอร์ตการเชื่อมต่อมาตลอดมักจะใช้เวลาในการรอชาร์จเร็วกว่าอุปกรณ์เจนเก่า แม้ว่าจะใช้ Power Bank ที่มีจำนวนวัตต์เท่ากันในการชาร์จก็ตาม ในการเลือกหา Power Bank สำหรับใช้งานกับอุปกรณ์เจนเดิมๆ จึงอาจไม่มีความจำเป็นต้องเลือกที่มีจำนวนวัตต์มากถึง 200 วัตต์ เพราะอาจไม่ได้ช่วยให้ระยะเวลาในการชาร์จเร็วขึ้นมากสักเท่าไหร่ และในปัจจุบันก็มี Premium Power Bank ที่มีให้เลือกซื้อใช้กันหลากหลายแบรนด์ เช่น Power Bank Eloop ที่มีความความคงทนแข็งแรง และมีความจุที่มากพอในการใช้งานต่อวัน

หากเราพูดถึงอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ที่น่าจะมีความสำคัญกับผู้คนในยุคปัจจุบันมากชิ้นหนึ่ง หลายคนน่าจะกำลังนึกถึงอุปกรณ์ Power Bank หรือก็คือแบบสำรองนั่นเอง อุปกรณ์ที่เรามักจะพกพาไปไหนมาไหนอยู่เสมอ และตอบโจทย์กับไลฟ์สไตล์ของผู้คนในยุคใหม่เป็นอย่างมาก ผู้คนซึ่งใช้อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์อย่างสมาร์ทโฟน แท็บเล็ต โน้ตบุ๊ค หรือแม้แต่อุปกรณ์อื่นอีกมากมายอยู่เสมอ ถึงแม้ว่าในปัจจุบันนั้น จะมีการประดิษฐ์คิดค้น และออกแบบอุปกรณ์ Power Bank แบบใหม่ หรือจะเรียกว่าเป็น Premium Power Bank ที่มีขนาดความจุของแบตเตอรี่เพิ่มมากขึ้น สามารถใช้งานได้ยาวนานขึ้น หรืออาจจะมีรูปทรงแปลกใหม่มากขึ้น แต่นั่นก็ไม่เพียงพอกับการใช้งานที่เพิ่มมากขึ้นของผู้คนยุคปัจจุบันเลย

อย่างไรก็ตาม การใช้งานอุปกรณ์สำคัญอย่าง Power Bank ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมานี้ ซึ่งแต่เดิมเราคุ้นเคยกับอุปกรณ์ Power Bank เเบบเดิมเดิม ซึ่งจะใช้งานในลักษณะของการเชื่อมต่อเข้ากับสมาร์ทโฟน โดยการผ่านสายแบบปกติ ในปัจจุบันได้มีการพัฒนาการใช้งาน เพื่อให้สามารถที่จะใช้งานได้อย่างสะดวกสบายมากขึ้นอย่างที่เรานึกไม่ถึงเลย อีกทั้งระบบที่สามารถชาร์จแบตเตอรี่ได้อย่างรวดเร็ว และอีกระบบหนึ่งที่จะมานำเสนอ เป็นระบบที่น่าสนใจและอำนวยความสะดวกแบบขั้นสุด นั่นก็คือระบบการชาร์จแบตเตอรี่แบบไร้สาย ซึ่งนับว่าตอบโจทย์ เพราะอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์สมัยใหม่มากมาย ได้มีการใส่ฟังก์ชันการทำงานชาร์จแบบไร้สายลงในอุปกรณ์มาด้วย ด้วยเหตุนี้เอง Power Bank แบบไร้สาย จึงได้รับความนิยมมากขึ้น อำนวยความสะดวกผู้คนมากขึ้น และเหมาะจะเป็นอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์รุ่นใหม่เลยทีเดียว วันนี้เราจะมาคุยกันในเรื่องนี้

Power Bank ระบบไร้สาย กับข้อดีที่เห็นได้อย่างเด่นชัด

อุปกรณ์แบตสำรองแบบไร้สายนั้น นับว่าค่อนข้างมีข้อดีเป็นอย่างมาก ที่เห็นได้ชัดเจนมากที่สุด นั่นคือการอำนวยความสะดวกให้กับผู้ใช้งาน เนื่องจากมีระบบไร้สาย ทำให้ไม่จำเป็นที่จะต้องพกพาสายเชื่อมต่อมากมาย เช่น สายชาร์จ USB ซึ่งตัดปัญหานี้ไปได้เลย ผู้ใช้งานไม่จำเป็นต้องมาวุ่นวายกับความยุ่งของสายชาร์จแบตแต่ละเส้น หรือไม่ต้องประสบปัญหาสายชาร์จแบตเตอรี่เกิดการชำรุดเสียหาย หรือขาดได้ ซึ่งอาจทำให้จะต้องเสียเงินในการซื้อเพิ่มไปอีก หรือหาสายใหม่มาทดแทนอยู่ตลอด

ลักษณะการทำงานนั้นก็แสนง่ายดาย อาจจะเพียงแค่ทำการวางอุปกรณ์สมาร์ทโฟน หรืออุปกรณ์แท็ปเล็ตของเรา ลงบน Power Bank บริเวณพื้นที่ที่เป็นแท่นชาร์จที่กำหนดไว้ ซึ่งตรงนี้จะแตกต่างกันออกไปตามแต่รุ่นและผู้ผลิต เพียงเท่านี้เราก็จะสามารถชาร์จแบตเตอรี่ของเราได้แล้ว

ข้อจำกัดและจุดสังเกตของ Power Bank แบบไร้สาย

ถึงแม้ว่าจะสามารถอำนวยความสะดวกให้กับผู้ใช้งานเป็นอย่างมาก และมีข้อดีในการหยิบไปใช้งาน แต่ก็มีข้อจำกัดหรือจุดสังเกตบางอย่างอยู่ อย่างเรื่องของราคา อุปกรณ์ Power Bank ที่ใช้ระบบชาร์จไร้สายนั้น แน่นอนว่ามีราคาที่สูงกว่าแบบธรรมดาอยู่แล้ว แบตสำรองแบบทั่วไปนั้น สามารถหาได้ในเรทราคาเริ่มต้น ไม่ถึงพัน แต่หากเป็นระบบไร้สายนั้น อาจมีราคาที่สูงกว่านั้นหลายเท่าตัวเลย ซึ่งอาจทำให้หลายคนต้องคิดหนัก นอกจากนี้ ในเรื่องของมาตรฐานในด้านความปลอดภัยนั้นก็ยังไม่ได้ชัดเจนเท่ากับแบตสำรองแบบเก่า ตรงนี้ก็คือ เนื่องจากอุปกรณ์แบตสำรอง ที่ใช้ระบบไร้สาย เป็นนวัตกรรมที่ถูกคิดค้นขึ้นมาใหม่ ดังนั้นจึงไม่ได้รับการสังเกตข้อบกพร่องเทียบเท่ากับแบตสำรองแบบเก่าอย่างแน่นอน

นอกจากนี้จุดสังเกตอีกจุดหนึ่งคือ เนื่องจากเป็นนวัตกรรมใหม่ ดังนั้นจึงสามารถที่จะรองรับอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ที่ใช้นวัตกรรมใหม่นี้ด้วยเช่นกัน อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์แบบเก่า น่าจะหมดจิตใช้แบตสำรองแบบไร้สายไปเลย ดังนั้น หากใครต้องการจะเลือกแบตสำรองแบบไหนมาใช้ อยากจะให้ดูข้อจำกัดในจุดเหล่านี้ด้วย ถึงจะมีข้อดี แต่เราก็ควรที่จะเลือกใช้งานอย่างระมัดระวังด้วยนะ

คงไม่มีใครที่จะบอกว่า Power Bank เป็นอุปกรณ์ที่ไม่สำคัญอีกต่อไป อุปกรณ์ชิ้นนี้เป็นอุปกรณ์ที่ได้รับความนิยมไม่ว่าจะยุคสมัยไหนก็ตาม โดยเฉพาะในปัจจุบันนี้ ที่ไม่ว่าใครก็จำเป็นที่จะต้องใช้สมาร์ทโฟน หรือบางคนอาจจะใช้อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์อื่นอย่างแท็บเล็ต หรือคอมพิวเตอร์โน้ตบุ๊ค อุปกรณ์เหล่านี้ น่าจะดีกว่าหากเรามีแบตสำรอง หรือ Power Bank ไว้เป็นตัวช่วยในยามฉุกเฉิน

แต่รู้หรือไม่ ว่าอุปกรณ์ Power Bank ที่ใครต่อใครใช้งานกันในปัจจุบันนั้น โดยปกติตัวแบตเตอรี่เอง จะทำมาจากวัสดุ 2 ชนิดที่มีความแตกต่างกัน นั่นก็คือวัสดุที่เราเรียกว่า ลิเธียมไอออน และอีกอย่างคือ ลิเธียมโพลิเมอร์ ทั้งสองมีความเหมือนหรือความแตกต่างกันอย่างไร ข้อดีข้อเสียต่างกันอย่างไร และหากเราจะเลือก Power Bank มาใช้งาน เราจะใช้งานแบบไหนจึงจะเหมาะสมมากกว่ากัน วันนี้เราจะชวนมาดูกัน

ลิเธียมไอออน

แบตเตอรี่แบบลิเธียมไอออนนั้น ส่วนมากจะอยู่ใน Power Bank ที่เป็นรุ่นเก่า แต่ในปัจจุบันนั้น ก็ยังคงได้รับความนิยมอยู่ เนื่องจากการที่มีราคาที่ถูกกว่า โดยปกติแบตเตอรี่แบบลิเธียมไอออนนั้น จะมีน้ำหนักที่มากกว่าแบบลิเธียมโพลิเมอร์ และจะเริ่มคลายประจุค่อนข้างเร็ว ซึ่งจะเกิดขึ้นภายในระยะเวลาไม่กี่อาทิตย์หลังจากที่ใช้งานครั้งแรก ในส่วนของแบตเตอรี่จะมีของเหลวด้านในซึ่งเป็นสารเคมีบางอย่าง โดยปกติจะไม่ทำการจูบแบตเตอรี่จนเต็ม ดังนั้นหากเราเปิด Power Bank มาใช้งานในครั้งแรก อาจมีแบตเตอรี่น้อยกว่าแบบลิเธียมโพลิเมอร์

ยังมีข้อจำกัดบางอย่างของแบตเตอรี่แบบลิเธียมไอออนอยู่ นั่นคือหากเราใช้พลังงานจนหมดเกลี้ยง อาจมีความเสี่ยงที่แบตเตอรี่จะเสื่อมเร็วได้ และในกระบวนการผลิต ส่วนมากมักจะจำกัดอยู่ในรูปแบบของสี่เหลี่ยมผืนผ้าเท่านั้น นั่นทำให้เมื่อจะนำมาดีไซน์ เพื่อทำเป็นแบบสำรอง ส่วนใหญ่จะเป็นในรูปแบบของสี่เหลี่ยมผืนผ้า ซึ่งหากใครต้องการในรูปแบบอื่น แบตเตอรี่แบบลิเธียมไอออนน่าจะไม่ตอบโจทย์คุณมากมายนัก

ลิเธียมโพลิเมอร์

แบตเตอรี่แบบลิเธียมโพลิเมอร์นั้น เป็นแบตเตอรี่ที่ถูกพัฒนาขึ้นมาใหม่ ซึ่งเป็นที่นิยมมากขึ้นในยุคปัจจุบัน แน่นอนว่าถูกพัฒนาขึ้นมาใหม่ ทำให้เป็นแบตเตอรี่ที่มีราคาสูงกว่าหากเทียบกับแบบอื่นๆ เหมาะกับการใช้งานกับ Power Bank ที่สำหรับชาร์จสมาร์ทโฟน แท็บเล็ต รวมถึงอุปกรณ์คอมพิวเตอร์ด้วย คุณสมบัติโดดเด่นของแบตเตอรี่แบบลิเธียมโพลิเมอร์คือ เมื่อเรานำ Power Bank แกะออกมาจากกล่องแล้ว เราสามารถที่จะหยิบมาใช้งานได้ในทันที อีกทั้งเรายังไม่ต้องกังวลในเรื่องของการเกิดแบตเตอรี่เสื่อมอย่างรวดเร็ว แม้ว่าจะใช้พลังงานหมดเกลี้ยงอยู่บ่อยครั้งก็ตาม และข้อสำคัญคือ เป็นแบตเตอรี่ที่มีน้ำหนักค่อนข้างเบา เราจึงสามารถที่จะพกพา Power Bank ที่ใช้แบตเตอรี่แบบลิเธียมโพลิเมอร์ไปไหนมาไหนได้อย่างสะดวกสบายมากกว่า

ไม่เพียงเท่านั้น แบตเตอรี่แบบลิเธียมโพลิเมอร์ ที่สำคัญก็คือมีการคลายบรรจุในอัตราที่น้อยมาก สามารถใช้กันได้ยาวๆ โดยเฉลี่ยอยู่ได้นานถึง 1 ปี อัตราการสูญเสียประจุไฟฟ้าจะอยู่ที่ประมาณ 0.1 เปอร์เซ็นต์ต่อเดือน ซึ่งนับว่าน้อยมากๆ และอีกข้อที่สำคัญคือ ยังมีระบบความปลอดภัยที่ค่อนข้างดีกว่า เพราะแบตเตอรี่แบบลิเธียมโพลิเมอร์นั้น จะไม่ติดไฟ ทำให้ลดความเสี่ยงต่อการเกิดระเบิดไปได้โดยปริยาย

แล้วเลือกแบบไหนดี

หากเราจะถามว่า ควรที่จะเลือกแบตสำรองแบบที่ใช้แบตเตอรี่แบบลิเธียมไอออน ซึ่งเป็นแบบเก่าที่ถูกพัฒนามานานแล้ว หรือแบบลิเธียมโพลิเมอร์ แน่นอนว่าใครหลายคนก็น่าจะต้องเลือกแบบลิเธียมโพลิเมอร์อย่างแน่นอน แต่ทั้งนี้ก็ต้องดูงบประมาณด้วย ถึงแม้ว่าจะถูกพัฒนามาใหม่กว่า แต่แน่นอนว่าก็มีราคาที่แพงกว่าด้วย หากงบประมาณไม่พอ อย่างน้อยแบตเตอรี่แบบลิเธียมไอออนเราก็ยังสามารถที่จะใช้งานได้อยู่ หากเราไม่ได้ใช้งานมันจะหนักเกินไป ก็ถือได้ว่าเป็น Premium Power Bank ที่ดีอีกหนึ่งตัว รวมถึงการเลือกสายขาร์จ USB ที่ดีมีมาตรฐาน ก็มีความสำคัญต่อตัวพาวเวอร์แบงค์เช่นกัน

ไม่ว่าจะอะไรก็ตาม เมื่อถูกหยิบมาใช้งานในระยะเวลาหนึ่งแล้ว ก็จะมีการเสื่อมไปตามสภาพ โดยเฉพาะที่เห็นได้ค่อนข้างชัดเจนที่สุด คือบรรดาอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ต่างๆ ซึ่งจะมีการอายุการใช้งานที่ค่อนข้างจำกัด จะมีอายุการใช้งานยาวหรือสั้นขนาดไหน ก็ขึ้นอยู่กับคุณภาพตั้งแต่ต้น รวมถึงปัจจัยอื่นๆ ควบคู่กันไปด้วย ดังนั้น นอกจากเราหยิบอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์เหล่านี้มาใช้งานแล้ว เราควรหมั่นที่จะสังเกตความผิดปกติของอุปกรณ์ของเรา รวมทั้งหมั่นดูแลรักษาให้ดีด้วย

และโดยเฉพาะอย่างยิ่ง อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ซึ่งมีแบตเตอรี่ และมีการใช้แผงวงจรหรือตัวจ่ายไฟ อย่างที่จะมาชวนคุยกันในวันนี้ คืออุปกรณ์ Power Bank หรือแบตเตอรี่สำรองนั่นเอง ซึ่งนับว่าเป็นอุปกรณ์ที่มีความสำคัญในยุคปัจจุบันเป็นอย่างมาก หลายคนเรียกว่าขาดอุปกรณ์นี้ไปไม่ได้เลยทีเดียว ไม่ว่าจะเป็น Power Bank แบบธรรมดา หรือ Premium Power Bank  แม้แต่ Power Bank เองก็มีอายุการใช้งานที่จำกัดด้วย และเราจะสังเกตได้อย่างไร ว่าอุปกรณ์ Power Bank ของเรานี้ เริ่มที่จะเสื่อมสภาพ หรือหมดสภาพการใช้งานแล้ว วันนี้เราจะมาชวนสังเกต Power Bank ของเรากัน

ชาร์จไฟไม่ค่อยเข้า

ข้อสังเกตแรก ที่เราจะสังเกตได้ และค่อนข้างชัดเจน เมื่อ Power Bank ของเราเริ่มที่จะเสื่อมสภาพ หรือหมดอายุการใช้งานแล้ว คือการที่เราชาร์จไฟไม่ค่อยเข้า แต่ก็มีข้อสังเกตอยู่ การชาร์จไฟไม่ค่อยเข้า บางทีอาจไม่ได้เกิดจากปัจจัยที่ Power Bank เริ่มเสื่อม แต่อาจเกิดจากการชำรุดจากจุดอื่น อย่างในเรื่องของพอร์ต ดังนั้นอยากให้ลองสังเกตตรงนี้ด้วย แต่หากภายนอกดูปกติดี และไม่ได้มีปัญหาชำรุดเสียหายอะไร เราก็อาจที่จะอนุมานได้ว่า Power Bank ของเราเริ่มที่จะเสื่อมสภาพแล้ว

ซึ่งจุดที่จะเสื่อมสภาพเร็วที่สุด น่าจะเป็นในส่วนของแบตเตอรี่ เมื่อแบตเตอรี่เริ่มเสื่อม จะคลายประจุไฟฟ้าได้เร็วกว่าปกติ นี่เองเป็นสาเหตุ ที่ทำให้เราชาร์จไฟเท่าไหร่ก็ไม่รู้จักเต็มสักที วิธีการแก้ไขคือ อาจจะทำการเปลี่ยนแบตเตอรี่ภายใน แต่หากว่า ดูแล้วว่าหากเปลี่ยนแบตเตอรี่ หรือนำไปซ่อม จะมีค่าใช้จ่ายที่ค่อนข้างสูง อยากให้ซื้อใหม่น่าจะคุ้มค่ามากกว่า นอกจากได้ของใหม่มาใช้ ยังได้เทคโนโลยีที่ใหม่และทันสมัยกว่าด้วย

Power Bank เริ่มบวม

หากเรานำมือไปรลูบอุปกรณ์แบตสำรองของเรา ว่า แบตสำรองของเรามีลักษณะนูนขึ้นมา นี่ก็เป็นอีกหนึ่งสัญญาณ ที่เราสามารถบอกได้ว่า อุปกรณ์ Power Bank ของเราเริ่มที่จะเสียแล้ว ถึงแม้ว่าอุปกรณ์แบตสำรองของเรานี้ จะมีอายุการใช้งานนานเป็นปี แต่แน่นอนว่า หากใช้ไปเป็นระยะหนึ่งแล้ว อาจเกิดอาการบวมได้ ซึ่งส่วนที่บวมก็จะเป็นส่วนของแบตเตอรี่นั่นแหละ สิ่งนี้ถือเป็นเรื่องปกติ แต่หากในกรณีที่เราเพิ่งซื้อแบตสำรองมาใช้ แล้วใช้ไปไม่นานเกิดมีอาการบวมขึ้นมา สิ่งนี้ค่อนข้างที่จะผิดปกติ และไม่สมควรที่จะเกิดขึ้น

การที่แบตเตอรี่บวมก่อนกำหนด อาจเกิดจากการที่เซลล์แบตเตอรี่ภายในผิดปกติ หรือเกิดจากการสายชาจร์ USB ที่ไม่ได้มาตรฐาน และแน่นอนว่าวิธีการ คือการที่เราไปเปลี่ยนแบตเตอร์รี่ แต่ก็เหมือนเดิม หากการเปลี่ยนแบตเตอรี่นั้นมีราคาสูง และเราซื้อใหม่น่าจะคุ้มค่ากว่า ก็ควรที่จะซื้อใหม่ดีกว่า

หลักๆ แล้ว การที่เราจะสามารถสังเกตสัญญาณ ว่าแบตเตอรีสำรองของเราเริ่มที่จะเสื่อมแล้วก็มีไม่มากมายนัก สองวิธีที่แนะนำมานี้ เป็นสองวิธีที่จะทำให้เราเห็นได้อย่างชัดเจนมากที่สุด ว่าแบตเตอรี่ของเราเริ่มเสื่อมสภาพ ทางที่ดีที่สุดนั้น หากเราพบการเสื่อมสภาพนี้ ห้ามเด็ดขาด ที่จะทนใช้ต่อไป เพราะอาจเกิดความเสี่ยงแบตเตอรี่สำรองของเราระเบิด และอาจสร้างความเสียหายให้กับตัวผู้ใช้งานได้ ดังนั้น อย่าเสียดาย แล้วซื้อของใหม่มาใช้น่าจะดีกว่า

พูดถึงสินค้าอย่าง Power Bank แน่นอนว่าหลายบริษัท หลายองค์กรทราบดีอยู่แล้วว่าเป็นหนึ่งในสินค้าที่นิยมใช้เป็นหนึ่งในเครื่องมือทางการตลาดในลักษณะของการจัดทำเป็นของพรีเมี่ยมเพื่อสกรีนชื่อบริษัท โลโก้แบรนด์ เพื่อสร้างภาพลักษณ์ หรือภาพจำให้กับแบรนด์นั้นๆ บริษัทนั้นๆ หรือกระทั่งใช้เป็นสินค้าตัวช่วยในการสร้างแบรนด์สำหรับบริษัทที่อาจจะยังไม่มีไลน์ผลิตสินค้าเป็นของตัวเอง หรือยังไม่มีแบรนด์ที่ติดตลาด เพื่อเป็นจุดเริ่มต้นในการต่อยอดพัฒนาผลิตภัณฑ์อื่นๆ มาวางจำหน่ายในอนาคต เพราะปัจจุบันการสั่งออเดอร์ให้ทางโรงงานผู้รับผลิตสินค้าพรีเมี่ยมอย่าง Power Bank สามารถทำได้ง่าย และคาดหวังคุณภาพที่น่าพอใจได้มากกว่าการเริ่มต้นลองผิดลองถูกในการสร้างไลน์ผลิตสินค้าด้วยตัวเอง อย่างไรก็ตามด้วยความที่สินค้าพรีเมี่ยมอย่าง Power Bank มีข้อดีมากมายดังกล่าว และสามารถจัดหา สั่งออเดอร์การผลิตจากโรงงานผู้รับผลิตที่ได้มาตรฐานได้อย่างสะดวกทำให้หลายบริษัท หลายองค์กรต่างก็มีการทำสินค้าชิ้นนี้เป็นหนึ่งในของพรีเมี่ยม หรือผลิตภัณฑ์ของบริษัทตนเองไปแล้ว การทำสินค้าพรีเมี่ยมชิ้นนี้ให้ออกมาน่าสนใจจึงต้องอาศัยไอเดียที่แปลกใหม่ และมีสเปค ฟังก์ชั่นใช้งานที่แตกต่างไปจากมาตรฐานเดิมๆ ซึ่งในบทความนี้เองก็ได้นำเอาไอเดีย Power Bank พรีเมี่ยมแนวใหม่ ที่มีการประยุกต์ใช้นวัตกรรมการผลิตหลายๆ แบบ จนทำให้เกิดสินค้าที่แตกต่างจากที่มีอยู่ในตลาด และรองรับการใช้งานที่หลากหลายมากกว่าประโยชน์การใช้งานเดิมๆ ของตัวสินค้า

Premium Power Bank แฟลชไดร์ฟ ไอเดียการพัฒนาสินค้าอย่างนึงของโรงงานผู้ผลิตของพรีเมี่ยมที่ถือว่าทำได้น่าสนใจ และค่อนข้างตอบโจทย์การใช้งานในยุคดิจิทัลไลฟ์สไตล์ได้มากขึ้นก็คือการนำแก็ดเจ็ตอย่างแฟลชไดร์ฟ หรืออุปกรณ์จัดเก็บไฟล์ข้อมูลมารวมกับ Power Bank นั่นเอง เพราะแก็ดเจ็ตทั้งสองอย่าง ถือเป็นของใช้งานพื้นฐานที่หลายคนจำเป็นต้องพกติดตัวประจำไปแล้ว แต่ที่ผ่านมายังไม่มีแบรนด์สินค้าใดพัฒนาตัวสินค้าให้มีฟังก์ชั่นการใช้งานทั้งสองแบบอย่างจริงจัง ทำให้ของพรีเมี่ยมอย่างพาวเวอร์แบงค์แฟลชไดร์ฟ กลายเป็นสินค้าที่น่าสนใจนำมาติดแบรนด์ ติดโลโก้ของบริษัทเพื่อใช้ในกิจกรรมทางการตลาดต่างๆ โดย Premium Power Bank แฟลชไดร์ฟ จะเป็นลักษณะรูปทรงพาวเวอร์แบงค์ทั่วไป แต่ทางผู้ผลิตได้มีการออกแบบให้มีฟังก์ชั่นเป็นช่องเสียบเมมโมรี่การ์ดเพิ่มมาด้วย ทำให้สามารถใช้งาน power Bank เป็นแฟลชไดร์ฟ หรือทรัมไดร์ฟได้ด้วย โดยที่ในการสั่งผลิต ทางผู้ผลิตก็จะมีให้เลือกปริมาณความจุได้เหมือนกับการเลือกขนาดความจุของแฟลชไดร์ฟทั่วไป เช่น 32 Gb, 64 Gb, 128 Gb เป็นต้น ซึ่งต้นทุนราคาในการสั่งผลิตต่อชิ้นก็ถูกแพงตามปริมาณความจุ และยังสามารถจัดทำเป็น Gift set คู่กับของชิ้นอื่นได้อย่างน่าสนใจอีกด้วย

Premium Power Bank พลังงานโซล่าเซลล์(Solar Cell) พูดถึงพลังงานโซล่าเซลล์หลายคนอาจคุ้นเคยกันดีอยู่แล้ว เพราะถือเป็นนวัตกรรมพลังงานทางเลือกที่มีการคิดค้นขึ้นใช้งานกันนานหลายปีแล้ว แต่สำหรับการปรับใช้นวัตกรรมเข้ากับแก็ดเจ็ตไอทีถือว่ายังเป็นเรื่องใหม่ โดยปัจจุบันมีผู้ผลิตสินค้าอย่าง Power Bank ได้มีการปรับใช้นวัตกรรม โดยนำเอาแผงโซล่าเซลล์มาติดบนตัวพาวเวอร์แบงค์ ทำให้ตัว  Power Bank สามารถชาร์จไฟได้ด้วยพลังงานแสงอาทิตย์ หรือชาร์จด้วยการตากแดดแทนที่การใช้ไฟฟ้าได้ และสามารถเปลี่ยนแปลงพลังงานความร้อนนั้นๆ ให้กลายเป็นประจุไฟฟ้าในการส่งต่อ หรือชาร์จให้กับอุปกรณ์ไอทีอื่นๆ เช่น สมาร์ทโฟน แท็บเล็ตได้ ซึ่งข้อดีของ Premium Power Bank  แบบโซล่าเซลล์นี้ก็คือ สามารถใช้งานในสถานที่ที่ไม่เอื้อต่อการใช้งานไฟฟ้าได้ เช่น การท่องเที่ยวตามสถานที่ธรรมชาติต่างๆ ซึ่งหากเป็นพาวเวอร์แบงค์ระบบชาร์จไฟปกติ เมื่อปริมาณไฟในตัวพาวเวอร์แบงค์หมด ก็เท่ากับว่าไม่สามารถใช้งานในการชาร์จไฟต่อให้กับอุปกรณ์อื่นๆ ได้อีกจนกว่าจะกลับเข้าที่พัก หรือไปในที่ที่มีไฟฟ้า มีปลั๊กในการเสียบชาร์จ แต่สำหรับ Power Bank โซล่าเซลล์นั้น สามารถชาร์จไฟให้ตัวเองได้ตลอดเวลาเพียงแค่มีแสงแดดส่องถึงเท่านั้น