blog

     power bank  เป็นอุปกรณ์ที่เกิดมาเพื่อตอบสนองผู้ใช้สมาร์ทโฟนที่แพร่หลายระบาดกันทั่วบ้านทั่วเมือง ทั้งผู้คนที่ใช้งานจริงและผู้ที่หลงใหลคลั่งไคล้กับโลกโซเชียล ไม่ว่าเราจะเป็นคนกลุ่มไหนก็แล้วแต่ เรามักจะพบปัญหาการใช้งานสมาร์ทโฟนที่ทำงานได้มากมายหลากหลายแต่ยิ่งมีฟีเจอร์เยอะๆยิ่งกินแบต แบตสำรอง จึงเกิดมาเพื่ออุดช่องว่างที่ว่านี้
มีผู้คนจำนวนมากที่ยังคงมีความเชื่อผิดๆเกี่ยวกับการใช้งาน power bank และบางความเชื่อถือเป็นเรื่องที่ถูกฝังไว้ในสมองจนกลายเป็นพฤติกรรมที่ทำตามอย่างกันจนเป็นเรื่องปกติ การปรับเปลี่ยนความคิดหรือพฤติกรรมเป็นการแก้ปัญหาที่ถูกต้องและเหมาะสม  เป็นเรื่องที่ต้องเรียนรู้และทำความเข้าใจเกี่ยวกับลักษณะการทำงานของ power bank ที่ถูกต้อง

ความเข้าใจผิดอันแรกและเป็นอันที่เข้าใจผิดกันมากที่สุดคือ การเลือก แบตสำรอง ที่มีค่าความจุของแบตเตอร์รี่สูงๆเป็นการเลือกที่ถูกต้องและชาญฉลาดที่สุด อันที่จริงแล้วการที่ power bank มีกำลังไฟสูงๆเกินกว่าความจำเป็น ผู้ใช้จะต้องแบกภาระถึงสองอย่าง อันแรกคือน้ำหนักของ power bank ที่มักจะมากขึ้นตามปริมาณความจุ และสองคือต้องแบกภาระเรื่องค่าใช้จ่ายที่มากขึ้นแต่ได้ประโยชน์ที่ไม่คุ้มค่าเงิน อย่าลืมว่าความจุยิ่งมากราคายิ่งสูงโดยปกติถ้าใช้งานแบบทั่วๆไป แบตสำรอง ที่มีความจุประมาณ 5,000-8,000 แอมป์ ก็เพียงพอต่อการใช้งานจริงในรอบวัน

ข้อต่อมาที่คนทั่วไปมักคิดเอาเองว่ามันเป็นข้อดีของ power bank คือ การที่มีช่องเชื่อมต่อหลายช่องยิ่งเยอะยิ่งดี หลายคนคิดว่าการชาร์จไฟพร้อมกันหลายอุปกรณ์จากแบตสำรองหรือ power bank เพียงอันเดียวเป็นเรื่องที่ดีในความคิดด้านความคุ้มค่า แต่ในความเป็นจริงแล้วช่องหัวต่อแต่ละช่องจะมีปริมาณการจ่ายไปที่ไม่เท่ากัน เพื่อที่จะสามารถทำงานได้หลากหลายขึ้นแต่ไม่ได้หมายความว่าทุกช่องจะสามารถทำงานได้พร้อมกัน แต่หากมีการใช้หลายช่องพร้อมกันจะไปเพิ่มภาระให้กับ power bank ทำให้ต้องทำงานหนักและอายุการใช้งานก็จะสั้นลงตามไปด้วย
และอันสุดท้ายที่เป็นความคิดแบบผิดๆที่โดนฝังหัวมานานนับสิบปีนั่นคือการชาร์จข้ามวัน  โดยปกติในยุคปัจจุบันแบตเตอร์รี่มือถือหรือ แบตสำรอง ได้ถูกพัฒนาให้มีส่วนประกอบของลิเทียม หรือลิเทียมพอลิเมอร์ ซึ่งเป็นแบตเตอร์รี่ชนิดที่ไม่ต้องกระตุ้น ต่างจากในสมัยก่อนที่ทำมาจากนิเกิลและแคดเมียมที่จะต้องอาศัยการชาร์จข้ามคืนเพื่อกระตุ้นแบตให้ทำงาน ข้อมูลเหล่านี้คงพอจะช่วยให้ความเข้าใจที่คลุมเครือและความเชื่อแบบผิดๆเบาบางลงไปบ้าง เพื่อการมี power bank ไว้ใช้งานยาวๆและมีประสิทธิภาพสูงคุ้มค่าเงิน

สินค้าที่คุณอาจสนใจ

สั่งทำ สั่งผลิต Powerbank แบตสำรอง พร้อมสกรีนโลโก้ แบรนด์ องค์กร หรือข้อความของคุณได้ง่าย ๆ สอบถามได้เลย CLICK!

Power bank ถือว่าเป็นอุปกรณ์เสริมไอทีที่ทุกคนต้องมี เพราะว่าใช้ในการชาร์จแบตให้กับสมาร์ทโฟหรือแท็บเล็ตเวลาที่เราออกไปข้างนอก ทำให้การใช้งานอุปกรณ์ของเราไม่สะดุด สามารถใช้งานได้อย่างต่อเนื่อง ถึงแม้ว่าแบตเตอรี่สำรองจะมีความทนทานแข็งแรงก็จริง แต่หากเราไม่ดูแลรักษาก็อาจทำให้แบตเสื่อมหรือว่ามีอายุการใช้งานที่สั้นลง วันนี้เราจะมาพูดถึงการดูแลรักษา Power bank อย่างไรให้ใช้งานได้ยาวนานที่สุด
อย่างแรกคือ การเลือกอะแดปเตอร์เวลาที่เราจะชาร์จ Power bank ก็ควรเลือกให้ตรงกับคุณสมบัติของแบตเตอรี่สำรองด้วยเพื่อทำให้แผงวงจรทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ ในบางครั้งเราอาจไม่ได้ใช้งานแบตสำรองเป็นเวลานาน เราก็ต้องชาร์จแบตบ้างเดือนละครั้ง เพื่อรักษาแผงวงจรภายในให้ได้ทำงานบ้าง และพยายามหลีกเลี่ยงการเก็บ Power bank ไว้ในที่มีความร้อนหรือความชื้นสูง เพราะอาจจะทำให้แผงวงจรและแบตเสียหายได้ การทำความสะอาดพาเวอร์แบงค์ก็ควรใช้ผ้าแห้งในการทำความสะอาด อย่าใช้ผ้าเปียก เพราะว่าอาจส่งผลต่อวงจรภายในได้ และหากเป็นไปได้เวลาที่เราชาร์จอุปกรณ์กับ แบตสำรองนั้นก็ควรงดใช้งานด้วย เพื่อยืดอายุการใช้งานของอุปกรณ์ทั้งสองอย่าง และควรระมัดระวังอย่าให้แบตสำรองหล่นบ่อยๆ เพราะว่าอาจทำให้ภายในของแบตเสื่อมสภาพและเสียหายได้ นอกจากนี้ตอนที่ Power bank กำลังชาร์จอยู่อย่าพยายามดึงสายชาร์จออกตอนที่ยังชาร์จไม่เต็ม เพราะอาจส่งผลต่อประจุไฟฟ้าที่ส่งผ่านไปยังอุปกรณ์ได้ ทำให้ส่งผ่านไม่เต็มที่ก่อให้เกิดความเสียหายได้ และหากเราดูแลรักษาอย่างดี และใช้งานถูกวิธีแล้วแต่แบตสำรองเกิดชาร์จไม่เข้า นั่นแสดงว่า แบตของคุณอาจจะหมดอายุการใช้งานแล้วให้คุณนำไปให้ร้านค้าดูจะได้รู้ว่า ชาร์จไฟไม่เข้านั้นเกิดจากสาเหตุใด
ทั้งหมดนี้คือการดูแลรักษา Power bank อย่างไรให้ใช้งานได้นานที่สุด ซึ่งคุณสามารถทำได้ง่ายๆ และหากมีปัญหาอะไรก็ลองปรึกษากับทางร้านที่ซื้อมา ยิ่งยังอยู่ในระยะประกัน หากมีปัญหาก็สามารถซ่อมหรือเปลี่ยนได้โดยไม่เสียค่าใช้จ่าย เพราะฉะนั้นการเลือกซื้อกับร้านค้าที่มีคุณภาพก็มีส่วนทำให้พาวเวอร์แบงค์ของคุณนั้นมีอายุการใช้งานที่ยาวนานขึ้นเช่นกัน และก่อนที่จะซื้อก็ให้คิดถึงการใช้งานของเราด้วยว่า ใช้งานบ่อยแค่ไหน และต้องดูในเรื่องของอุปกรณ์ที่เราจะชาร์จด้วยว่า มีความจุเท่าไร จะได้เลือกแบตเตอี่สำรองที่ตรงกับความต้องการของคุณมากที่สุด

สินค้าที่คุณอาจสนใจ

สั่งทำ สั่งผลิต Powerbank แบตสำรอง พร้อมสกรีนโลโก้ แบรนด์ องค์กร หรือข้อความของคุณได้ง่าย ๆ สอบถามได้เลย CLICK!

เครื่องเล่นเกมส์พกพา เป็นอุปกรณ์เล่นเกมส์ที่ทำให้เราไม่จำเป็นที่จะต้องนั่งอยู่หน้าๆจอทีวีหรือเครื่องคอมพิวเตอร์เพื่อที่จะสนุกกับเกมส์ที่เราชอบ โดยบริษัทที่เริ่มต้นและคลองตำแหน่งตลาดในเครื่องเล่นเกมส์พกพานี้คือ ปู่Nintendo ที่เริ่มต้นตำนานตั้งแต่ยุค 70s กับเครื่องเกมส์กดขาวดำอย่าง Gamesboy ที่มีความสามารถในการเล่นเกมส์แบบ On-a-go ได้ เพียงแค่ใช้แบตเตอรี่ AA 6 ก้อนเพื่อเล่นเกมส์แบบพกพาได้ถึงเกือบ 6 ชั่วโมง…
ใช่แล้วครับ แบตเตอรี่ AA 6 ก้อน เพื่อเล่นเกมส์เกือบ 6 ชั่วโมง ในยุคนั้นถึงขั้นกับมีอุปกรณ์อย่างรางชาร์จถ่าน 6 ก้อนแบบพกพา หรือ ไม่อย่างนั้นผู้เล่นก็ต้องพกพาแผงถ่าน6ก้อนไปทุกทีเพื่อเปลี่ยนเวลาที่พลังงานของเครื่องหมด ซึ่งปัญหาเรื่องแบตเตอรี่ได้เปลี่ยนแปลงไปตามสมัยเวลาทีผ่านไป ในยุคของ Game boy color, Gameboy Advance และ Game boy SP จำนวนของถ่านAA ที่ต้องใช้เหลือเพียงแค่ 2 ก้อน และในยุคของ DS,3DS,New 3DS และ Nintendo Switch แบตเตอรี่ได้กลายมาเป็นแบบ Li-theon ที่สามารถชาร์จเติมได้เรื่อยๆ
การเปลี่ยนมาเป็นแบตเตอรี่ Li-theon ของเครื่องเล่นเกมส์พกพา ทำให้เกิดคำถามว่า เราสามารถที่จะใช้ Power Bank ซึ่งปกติแล้วใช้ในการชาร์จโทรศัพท์มือถือ มาชาร์จเครื่องเล่นเกมส์พกพาโดยเฉพาะอย่างยิ่งกับเด็กใหม่อย่าง Nintendo Switch ที่มีความสามารถในการเล่นเกมส์ที่ภาพสวยมากขึ้น และแน่นอนว่ากินแบตมากขึ้นตามไปด้วย
ซึ่งโดยมาตรฐานแล้ว Nintendo Switch ใช้สายชาร์จแบบ 15V/2.6A ซึ่งเราสามารถใช้หัวแปลงเชื่อมต่อ ที่สามารถที่จะเชื่อมต่อเข้ากับ Power Bank ได้ โดย Power Bank ที่ใช้ในการชาร์จเครื่องเล่นเกมส์พกพานี้ควรจะมีขนาดมากกว่า 6,630 mAh ขึ้นไปหรือให้คิดเอาไว้ว่า Power Bank สำหรับการชาร์จนี้ยิ่งมากเท่าไรยิ่งดีเท่านั้น
หรือในอีกทางหนึ่ง เราสามารถที่จะชาร์จ Nintendo Switch ผ่านทาง USB-C port ของตัวเครื่อง ด้วย Power Bank ได้ โดยที่รูปแบบของการชาร์จ จะเปลี่ยนไปเป็นแบบ USB-USB ที่จะให้ประจุที่ 2.4 A ซึ่งถ้าเทียบกับแบบแรกแล้วจะค่อนข้างใช้เวลามากกว่าในการชาร์จ และความสามารถในการชาร์จจะขึ้นตรงอยู่กับสายชาร์จที่ใช้งานด้วย โดยที่ USB-C 3.1 จะมีความสามารถในการชาร์จประจุที่ไวกว่า
และเรายังสามารถใช้ Power Bank ไม่ใช่เพียงแค่ในการชาร์จอุปกรณ์พกพาขนาดเล็กได้เพียงอย่างเดียวเท่านั้น แต่เราสามารถที่จะใช้ในการชาร์จ Notebook หรือ แล็ปท็อปได้อีกด้วย แต่การจะใช้งานเพื่อการชาร์จแบบนี้ ตัว Power Bank จะต้องมีขนาดความจุที่เยอะมาก และผู้ใช้งานจะต้องหาหัวเชื่อมต่อที่เปลี่ยนจากหัวชาร์จแบบ Micro-USB, USB มากลายเป็นหัวแจ็คที่เสียบเข้ากับรู ปลั๊กของตัวโน๊ตบุ๊คได้ด้วย โดย Power Bank สำหรับการชาร์จโน๊ตบุ๊คควรจะมีขนาด mAhขั้นต่ำอยู่ที่ 20,000 mAh

สินค้าที่คุณอาจสนใจ

สั่งทำ สั่งผลิต Powerbank แบตสำรอง พร้อมสกรีนโลโก้ แบรนด์ องค์กร หรือข้อความของคุณได้ง่าย ๆ สอบถามได้เลย CLICK!

ในยุคนี้เป็นยุคที่มีแอพพลิเคชั่นให้เราได้เพลิดเพลินกันตลอดทั้งวันส่งผลให้แบตเตอรี่โทรศัพท์มือถือมักจะหมดกลางทางก่อนกลับบ้านซะหลายครั้ง ทำให้ power bank ตัวช่วยเพิ่มแบตเตอรี่โทรศัพท์มือถือ กลายมาเป็นแกดเจ้ดสำคัญที่ขาดไม่ได้ไปซะแล้ว ซึ่งในการเลือกซื้อพาวเวอร์แบงค์โดยส่วนใหญ่แล้วมักจะต้องเจอกับปัญหาพกพาไปไหนมาไหนลำบาก จนในที่สุดก็กลายมาเป็นที่ทับกระดาษ จากการที่เลือกความจุของพาวเวอร์แบงค์เยอะ ๆ ไว้ซะก่อน เพราะด้วยความคิดที่ว่าการซื้อpower bank ความจุเยอะ ๆ คือคุ้มค่าแต่ก็ต้องพบกับพาวเวอร์แบงค์ที่มีขนาดใหญ่ และน้ำหนักเยอะจนพกพาลำบาก เพราะฉะนั้นแล้วหากใครที่กำลังอยากจะได้ power bank สักตัวล่ะก็ ต้องเลือกซื้อแบบที่มีความจุเหมาะสมกับการใช้งานของเรา ก็จะคุ้มค่าที่สุด และเราควรจะเลือกซื้อ power bank ขนาดความจุเท่าไหร่มาดูกันค่ะ
ซึ่งความจุของพาวเวอร์แบงค์ที่เหมาะกับการใช้งานของเราก็คือ power bank ที่มีความจุมากกว่า 3 เท่าของแบตเตอรี่โทรศัพท์มือถือ ซึ่งโดยส่วนมากแบตเตอรี่ของโทรศัพท์มือถือก็จะอยู่ที่ราว ๆ ประมาณ 2000 – 3000 mAHพาวเวอร์แบงค์ที่เหมาะสมก็คือ 6000 – 10000 mAHก็จะชาร์จแบตเตอรี่โทรศัพท์มือถือได้ประมาณ 2 – 3 รอบ
แต่ถ้าหากว่าในหนึ่งวัน เราไม่ได้ใช้โทรศัพท์มือถือมากมายอะไร อาจจะเหลือแบตเตอรี่โทรศัพท์สัก 20% แต่ก็อยากอุ่นใจเวลาที่ต้องการขอความช่วยเหลือในขณะที่เดินทางก็ควรจะเลือก power bank ที่มีความจุประมาณ 3000 – 5000 mAH ให้พอได้ชาร์จแบตเตอรี่โทรศัพท์มือถือเต็มสักหนึ่งรอบก็พอ และยิ่งพาวเวอร์แบงค์มีความจุที่น้อย ขนาดก็จะเล็กลง น้ำหนักก็เบาด้วย ทำให้เวลาพกพาไปไหนมาไหนสะดวกสบาย ถึงแม้ไม่ได้พกกระเป๋าไปด้วย ก็ยังสามารถพกพาไปได้อย่าสบาย ๆ ด้วยการพกใส่กระเป๋าเสื้อ กระเป๋ากางเกง หรือกระเป๋ากระโปรง
ซึ่งจากประสบการณ์ของตัวเอง ที่มี power bank ทั้งแบบ 20000 mAHและ 4000 mAHอันที่หยิบมาใช้งานมากที่สุดในทุกวันนี้ ก็จะเป็นตัวเล็ก ความจุ 4000mAH ซะมากกว่า เพราะด้วยขนาดที่เบา และชาร์จไอโฟนได้เกือบ 2 รอบนอกจากนี้การที่เราไม่ควรเลือก power bank ที่มีความจุเยอะกว่าการใช้งานของเรานั่นก็คือ ระยะเวลาในการชาร์จพาวเวอร์แบงค์ให้เต็ม ยิ่งความจุเยอะก็ชาร์จนาน อย่างความจุ 20000 mAHใช้เวลาชาร์จราว ๆ 15 – 18 ชั่วโมง และ 30000mAHใช้เวลาชาร์จประมาณ 18 – 20 ชั่วโมง ซึ่งนั่นหมายความว่าหากเราลืมชาร์จ power bank ล่ะก็ และเผลอใช้จนหมด วันรุ่งขึ้นเราก็จะไม่มี power bank มาชาร์จแบตเตอรี่โทรศัพท์มือถือ เพราะฉะนั้นแล้วการเลือก power bank ที่มีความจุเหมาะสมกับการใช้งานของเรา จึงเป็นการเลือกซื้อพาวเวอร์แบงค์ที่คุ้มค่าที่สุดค่ะ

สินค้าที่คุณอาจสนใจ

สั่งทำ สั่งผลิต Powerbank แบตสำรอง พร้อมสกรีนโลโก้ แบรนด์ องค์กร หรือข้อความของคุณได้ง่าย ๆ สอบถามได้เลย CLICK!

หลายคนอาจจะเคยสงสัยว่า เบื้องหลังของเจ้า power bank หรือแบตเตอรี่สำรองที่เราใช้เติมพลังให้กับสมาร์ทโฟนและแท็บเลตในทุกวันนี้นั่น ประกอบด้วยเซลล์แบตเตอรี่แบบไหนกันแน่ถึงได้มีความจุมหาศาลและยังอึด ทนทาน ใช้ได้ยาวนานหลายวันในการชาร์จแค่ครั้งเดียว บทความของเราวันนี้ จึงมีคำตอบของคำถามที่คุณสงสัยเรื่องแบตเตอรี่ภายในเครื่อง power bank มาฝาก

สำหรับแบตเตอรี่ของ power bank  นั้นนิยมนำมาผลิตกันอยู่สองประเภท นั่นก็คือ แบตที่เรารียกว่าลิเธียมไออน หรือ Li-Ion และ แบตเตอรี่ ลิเธียม โพลิเมอร์ Li-Polymer และสุดท้ายคือแบตเตอรี่ NiMH หรือนิกเกิล เมทัล ไฮไดรต์ซึ่งแบตเตอรี่ทั้งสองชนิดก็มีข้อดีและข้อเสียแตกต่างกันไป ดังนี้

1. แบตเตอรี่ power bank ชนิดลิเธียม ไอออน (Li-Ion) นั้นจะโดดเด่นตรงที่มีความหนาแน่นสูง ทำให้ได้พลังงานความจุแบตสูงในราคาที่ถูก นอกจากนี้ในการใช้งานครั้งแรกก็ไม่จำเป็นต้องผ่านการกระตุ้นไฟก่อนอีกด้วย แต่แบตแบบนี้จะมีอัตราการปล่อยพลังงานต่ำและไม่สามารถผลิตออกมาในรูปแบบอื่นๆ นอกจากแบบสี่เหลี่ยมผืนผ้าได้ แต่ปัจจุบันก็ได้รับการพัฒนาขึ้นโดยทำให้แบตมีน้ำหนักเบาลง พกพาง่าย และสามารถชาร์จไฟเพื่อเติมพลังงานกลับลงไปใน power bank ได่ตลอดเวลาโดยที่ไม่ต้องรอให้พลังงานของแบตลิเธียมไอออนลดต่ำลง เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการ power bank แบตจุสูงแต่ราคาถูก แต่ข้อเสียของแบตเตอรี่ชนิดนี้ก็คือมีการเสื่อมสภาพของเซลล์แบตตลอดเวลาแม้จะไม่ได้ใช้งาน
2. แบตเตอรี่ชนิดลิเธียม โพลิเมอร์ (Li-polymer) มีลักษณะบางคล้ายๆ การ์ด สามารถผลิตออกมาได้หลากหลายรูปทรง ทำให้สามารถนำไปสร้างสรรค์ power bank ได้หลากหลายดีไซน์มากกว่า นอกจากนี้ด้วยความที่เป็นเทคโนโลยีใหม่ ทำให้แบตเตอรี่แบบลิเธียม โพลิเมอร์ใช้งานได้ยาวนาน แบตอึด ปลอดภัยสูงและยังมีน้ำหนักที่เบาแต่ข้อเสียของมันก็คือราคาที่สูงตามไปด้วยนั่นเอง
3. แบตเตอรี่นิกเกิล เมทัล ไฮไดรต์ (NiMH) แบตชนิดนี้นั้นมีเทคโนโลยีเก่าที่สุด มีลักษณะเป็นก้อนแบตเตอรี่เรียงแถวกันเป็นแผง มักพบเห็นได้จากการชาร์จแบตมือถือรุ่นเก่าๆ ปัจจุบันไม่ได้รับความนิยมในการนำมาทำ power bank เพราะความเก่า และข้อจำกัดที่มากมายของมัน ไม่ว่าจะเป็นการต้องรอให้ใช้งานจนพลังงานหมดแล้วจึงนำกลับมาชาร์จไฟใหม่ได้ หรือจะเป็นความจุที่น้อยกว่าแต่น้ำหนักสูง พกพายาก และยังไม่เพียงพอต่อการชาร์จไฟให้แก็ตเจตรุ่นใหม่ๆ ทำให้ในปัจจุบันเรามักเห็น power bank จากแบตลิเธียมไอออน และแบตเตอรี่ลิเธียม โพลิเมอร์มากกว่า

power bank เป็นอุปกรณ์ที่เราซื้อและต้องใช้งานทุกวัน เพราะฉะนั้นการเลือกแบตเตอรี่ภายใน power bank อย่างเหมาะสมก็เป็นปัจจัยในการเลือก power bank ที่ไม่ควรมองข้าม

สินค้าที่คุณอาจสนใจ

สั่งทำ สั่งผลิต Powerbank แบตสำรอง พร้อมสกรีนโลโก้ แบรนด์ องค์กร หรือข้อความของคุณได้ง่าย ๆ สอบถามได้เลย CLICK!

สินค้าที่คุณอาจสนใจ

สั่งทำ สั่งผลิต Powerbank แบตสำรอง พร้อมสกรีนโลโก้ แบรนด์ องค์กร หรือข้อความของคุณได้ง่าย ๆ สอบถามได้เลย CLICK!

สินค้าที่คุณอาจสนใจ

สั่งทำ สั่งผลิต Powerbank แบตสำรอง พร้อมสกรีนโลโก้ แบรนด์ องค์กร หรือข้อความของคุณได้ง่าย ๆ สอบถามได้เลย CLICK!

สินค้าที่คุณอาจสนใจ

สั่งทำ สั่งผลิต Powerbank แบตสำรอง พร้อมสกรีนโลโก้ แบรนด์ องค์กร หรือข้อความของคุณได้ง่าย ๆ สอบถามได้เลย CLICK!