
นับตั้งแต่การเปิดตัวของตลาดสมาร์ทโฟนดังเช่น ไอโฟนของค่ายแอบเปิ้ลในปี 2007 เทคโนโลยีในการสื่อสารหรือความบันเทิงที่สามารถพกพาได้นั้น ก็เติบโตมาอย่างรวดเร็วและมีแนวโน้มว่าจะสามารถที่จะเปลี่ยนแปลงไปในทิศทางที่ดีขึ้นเรื่อยๆได้ แต่ไม่ว่าเทคโนโลยีนั้นจะดีขนาดไหน ก็ไม่สามารถปฏิเสธถึงความสำคัญของสิ่งที่เคียงคู่กับมันได้ นั่นคือ Power Bank นั่นเอง
ย้อนกลับไปตั้งแต่เมื่อปี 2001 เมื่อโนเกียประกาศเปิดตัวโทรศัทพ์มือถือหน้าจอขาวดำ ซึ่งมีระดับพลังงานที่สามารถเอื้อต่อการใช้งานได้นานเป็นสัปดาห์ก่อนที่จะต้องนำไปชาร์จ ในตอนนั้นแบตเตอรี่ของโทรศัพท์ยังคงมีขนาดต่ำกว่า 1000 mAh หรือในอีกชื่อคือ Nickle Cadmium Battery ซึ่งมักจะไปมีปัญหากับโทรศัทพ์มือถือรุ่นที่ต้องการๆใช้งานหน่วยความจำของตัวเครื่องเสมอ ทำให้ส่งผลกระทบต่ออายุการใช้งานของแบตเตอรี่ในมือถือ ทำให้ผู้คนในตอนนั้นมักจะมีแบตเตอรี่ที่ชาร์จเต็มแล้วสำรองติดกระเป๋าเอาไว้เพื่อที่จะสามารถเปลี่ยนแบตเวลาที่ต้องการได้ เปรียบเหมือนกับ Power Bank สมัยนี้นั่นเอง จนกระทั่งได้มีการพัฒนาแบตเตอรี่ให้อยู่ในรูปแบบที่เราเห็นกันอยู่ทุกวันนี้ นั่นคือ แบตเตอรี่ ลิเที่ยม โพลิเมอร์ ซึ่งมีขนาดที่เล็กกว่าเดิมแต่ประสิทธิภาพกลับเหนือกว่าแบตเตอรี่รุ่นเก่าเป็นหลายเท่า ซึ่งแบตเตอรี่แบบนี้นี่เองที่เป็นจุดกำเนิดเริ่มต้นของ Power Bank ที่เรารู้จักกันในปัจจุบันนี้
Power Bank ถูกประกาศเปิดตัวครั้งแรกใน งานแสดงสินค้าอิเล็กทรอนิกส์ ในเวกัส เมื่อปี 2011 โดยมันถูกโฆษณาว่า “เป็นอุปกรณ์ที่มีการจัดวางระบบภายในประกอบไปด้วย แบตเตอรี่ แผงวงจร และ ชิปควบคุม ที่สามารถใช้ในการให้พลังงานกับอุปกรณ์ทางอิเล็กทรอนิกส์ต่างๆ โดยสามารถที่จะพกพาติดตัวไปได้ในทุกๆที่” ซึ่ง Power Bank นั้นมาในช่วงเวลาที่เหมาะสมอย่างมาก เพราะในขณะนั้นเป็นช่วงเวลาที่มือถือส่วนใหญ่นั้น กำลังเข้าสู่วงการตลาด smartphone (สืบเนื่องมาจากความสำเร็จอย่างล้นหลามของ iphone) ดังนั้นเมื่ออุปกรณ์ที่สามารถช่วยในการต่ออายุการใช้งานของโทรศัพท์ โดยที่ไม่จำเป็นต้องไปพึ่งพาแหล่งพลังงานตามอาคารสถานที่ต่างๆนั้น จึงกลายเป็นของที่ผู้ใช้มือถือทุกๆคนต้องมีเอาไว้ใช้งานกันทั้งสิ้น
แน่นอนว่า Power Bank ไม่ใช่อุปกรณ์เพียงชนิดเดียวที่โฆษณาในเรื่องความสามารถในการ “ชาร์จที่ไหนก็ได้” ในวงการตลาดมือถือนั้น มีอุปกรณ์หลายๆแบบที่เอื้อต่อวัตถุประสงค์แบบนี้ เช่น เคสโทรศัพท์มือถือที่สามารถที่จะชาร์จแบตไปด้วยและทำหน้าเป็นเคสไปด้วยได้ (ไม่ค่อยได้รับความนิยมเพราะทำให้มือถือที่บาง กลายเป็นมือถือที่หนาแทน) หรืออุปกรณ์จำพวก “หัวต่อสารพัด” ก็เกาะความต้องการของตลาดจนพัฒนากลายเป็นอุปกรณ์ “ชาร์จแบตสารพัด” ได้ด้วยเหมือนกัน