
เป็นที่ทราบกันดีอยู่แล้วว่าปัจจุบันเทคโนโลยีชาร์จเร็วถือเป็นหนึ่งในเทคโนโลยีสำคัญที่มาควบคู่กับการใช้งานสมาร์ทโฟน แท็บเล็ต หรือกระทั่งแล็ปท็อปขนาดพกพาต่าง ๆ ซึ่งเข้ามาช่วยลดระยะเวลาในการรอชาร์จไฟให้กับอุปกรณ์ใด ๆ ลงได้ ทำให้สามารถใช้งานอุปกรณ์ต่าง ๆ ได้อย่างต่อเนื่อง ลื่นไหลมากยิ่ง ตอบสนองไลฟ์สไตล์ประจำวันได้ดียิ่งขึ้น เช่นเดียวกับแก็ดเจ็ตเสริมอย่าง Power Bank หรือแบตเตอรี่สำรองจากแบรนด์ผู้ผลิตเจ้าต่าง ๆ เองก็ได้มีการปรับตัว พัฒนาเทคโนโลยีการชาร์จของตัวเองให้รวดเร็วขึ้น ไม่ว่าจะเป็นยี่ห้อ power bank eloop ,remax , yoobao , Energy ,veger สอดรับกับระบบการชาร์จความเร็วสูงของแบรนด์ผู้ผลิตอุปกรณ์ไอทีเจ้าต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็น Fast Charge, Quick Charge หรือ Vooc Charge อย่างไรก็ตามแม้ว่าเทคโนโลยีชาร์จเร็วที่ติดมากับตัวอุปกรณ์เช่น สมาร์ทโฟน แท็บเล็ต หรือ แก็ดเจ็ตเสริมอย่าง power bank จะมีประโยชน์ดังกล่าว แต่ขณะเดียวกันก็มีผู้ใช้งานบางส่วนที่รู้สึกว่าเทคโนโลยีการชาร์จด้วยความเร็วสูงแบบต่าง ๆ นั้นอาจไม่ปลอดภัย และก่อให้เกิดผลเสียต่อตัวอุปกรณ์ในระยะยาวได้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับ power bank ซึ่งไม่ใช่อุปกรณ์ชาร์จที่ผลิตมาโดยแบรนด์ผู้ผลิตอุปกรณ์นั้น ๆ เอง อาจจะไม่ได้มีเทคโนโลยีการชาร์จที่สอดรับกันได้กับระบบชาร์จด้วยความเร็วสูงของแบรนด์ต่าง ๆ ได้อย่างลงตัวจริงตามที่กล่าวอ้างในคำโฆษณา ในบทความนี้จึงจะมาไขข้อข้องใจให้ได้ทราบกันว่าในความเป็นจริงการทำระบบชาร์จเร็วใน power bank ให้ใช้ได้กับระบบชาร์จเร็วแบบต่าง ๆ บนอุปกรณ์ไอทีของแต่ละแบรนด์เป็นเรื่องยากหรือไม่ และการใช้ power bank ชาร์จเร็วยี่ห้อต่าง ๆ นั้นอันตราย หรือมีผลเสียใด ๆ ในระยะยาวหรือไม่
ระบบการชาร์จด้วยความเร็วสูงบนอุปกรณ์ไอทีจากแบรนด์ต่าง ๆ มีความคล้ายคลึงกัน อย่างที่ทราบกันดีว่าการตั้งชื่อระบบ หรือเทคโนโลยีชาร์จเร็วของแบรนด์ผู้ผลิตอุปกรณ์ไอทีแต่ละแบรนด์นั้นมีความแตกต่างกัน โดยบางแบรนด์ก็ใช้ชื่อว่า Fast Charge บางแบรนด์ก็ใช้ชื่อ Quick Charge บางแบรนด์ก็ใช้ชื่อ Vooc Charger นอกจากนี้ก็ยังอาจตามด้วยชื่อรุ่น หรือเวอร์ชั่นที่แตกต่างกันไปตามแต่รุ่นอุปกรณ์อีกด้วยเช่น 2.0, 3.0 ซึ่งด้วยเหตุนี้เองทำให้ผู้ใช้งานหลายคนเข้าใจว่าระบบชาร์จเร็วของแต่ละแบรน์แตกต่างกัน และไม่สามารถใช้อุปกรณ์ชาร์จร่วมกันได้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับ power bank ซึ่งอาจไม่ซัพพอร์ทการชาร์จเร็วได้กับทุกระบบ ทว่าในความเป็นจริงแล้วสถาปัตยกรรมของระบบรับจ่าย-ไฟของอุปกรณ์แต่ละแบรนด์นั้นมีความคล้ายคลึง และใช้แบตเตอรี่ประเภท Lithiun ion หรือ Lithium polymer เช่นเดียวกัน ดังนั้นการทำอุปกรณ์ชาร์จให้สามารถชาร์จได้กับระบบชาร์จเร็วของสมาร์ทโฟน แท็บเล็ตแต่ละแบรนด์จึงไม่ใช่เรื่องที่ซับซ้อนเหมือนที่หลายคนเข้าใจ
ความเร็วในการชาร์จไม่ก่อให้เกิดอันตราย การชาร์จความเร็วสูงด้วย power bank นั้นก็เช่นเดียวกับการชาร์จความเร็วสูงด้วยอะแดปเตอร์ของอุปกรณ์ ซึ่งไม่ได้ก่อให้เกิดอันตรายใด ๆ ต่อระบบไฟ และตัวอุปกรณ์ หาก power bank ตัวนั้น ๆ ผ่านกระบวนการผลิตและการประกอบที่ได้มาตรฐาน โดยผลกระทบเดียวที่มาจากการชาร์จด้วยความเร็วสูงก็คือเรื่องของความร้อนที่มีแผ่กระจายออกมามากกว่าการชาร์จระบบปกติ หรือการชาร์จความเร็วต่ำ ๆ นั่นเอง ซึ่งความร้อนนี้เองอาจรบกวนประสิทธิภาพการทำงานของอุปกรณ์ในทางอ้อมได้ในบางกรณี ตัวอย่างเช่น ความร้อนที่สูงเกินไปอาจทำให้สมาร์ท แท็บเล็ตบางรุ่นมีอาการค้าง หน้าจอกระตุก เป็นต้น ดังนั้นจึงควรหลีกเลี่ยงการใช้งานแอปพลิเคชั่นต่าง ๆ ขณะเสียบชาร์จด้วย power bank หรืออะแดปเตอร์ชาร์จเร็ว ควรใช้ premium power bank เพื่อความปลอดภัย หากต้องการซื้อเป็นของขวัญให้ใครสักคนควรเลือกเป็นแบบ gift set รับรองว่าจะต้องประทับใจที่ได้รับ
แบตเตอรี่แบบ Lithium จะค่อย ๆ เสื่อมสภาพไปตามอายุการใช้งานเป็นปกติ อย่างที่ทราบกันว่าแบตเตอรี่ที่ใช้งานกันในสมาร์ทโฟน แท็บเล็ตแทบทุกแบรนด์ในปัจจุบันนี้เป็นแบบ Lithium ion หรือ Lithium Polymer ซึ่งแบตเตอรี่ประเภทนี้จะมีการเสื่อมสภาพไปทีละนิดนับตั้งแต่ครั้งแรกที่มีการเริ่มจ่ายไฟออกจากตัวแบตเตอรี่ กล่าวคือความสามารถในการกักเก็บไฟไว้ในตัวจะค่อย ๆ ลดลงไปทีละนิดตามอายุการใช้งานนั่นเอง โดยเมื่อใช้งานไปราว 10-15 ปี แบตเตอรี่ก็อาจไม่สามารถกักเก็บไฟไว้ในตัวได้อีกเลย ซึ่งการเสื่อมสภาพนี้ไม่ได้ขึ้นอยู่กับการใช้ power bank ชาร์จเร็ว หรืออะแดปเตอร์ชาร์จไวรุ่นต่าง ๆ เสียบชาร์จ กล่าวคือต่อให้ใช้อะแดปเตอร์ชาร์จความเร็วต่ำ ๆ ที่มีกำลังไฟเพียง 3-5 วัตต์ แบตเตอรี่ก็จะค่อย ๆ เสื่อมไปตามอายุการใช้งานเช่นกัน