แม้ว่าแก็ดเจ็ตชาร์จไฟสำรองอย่าง Power Bank ที่มีวางจำหน่ายอยู่ทั่วไปนั้นส่วนใหญ่แล้วจะทำมาเพื่อรองรับการใช้งานชาร์จอุปกรณ์พกพาที่หลากหลาย ซึ่งนับรวมถึงสมาร์ทโฟน แท็บเล็ต และแล็ปท็อปด้วย แต่หลายคนก็พอจะทราบกันดีว่าในการใช้งานจริงนั้น Power Bank หลายรุ่น หลายยี่ห้อดูจะไม่ค่อยเหมาะกับการชาร์จไฟให้อุปกรณ์ที่มีขนาดใหญ่สักเท่าไหร่ เนื่องจากปริมาณความจุไฟ หรือแบตเตอรี่ที่มีค่อนข้างจำกัด และความเร็วในการจ่ายกระแสไฟที่ไม่สูงนักทำให้ระยะเวลาการรอชาร์จค่อนข้างนาน เรียกว่าหากจะพกพา Power Bank ไว้สำหรับใช้ชาร์จแท็บเล็ต ไอแพด หรือแล็ปท็อปก็สู้พกอะแดปเตอร์ชาร์จไฟของอุปกรณ์นั้นๆ เองดีกว่า อย่างไรก็ตามบ่อยครั้งที่การพกพาอะแดปเตอร์ชาร์จไฟของอุปกรณ์ต่างๆ อาจทำให้หลายคนรู้สึกไม่สะดวก ไม่ว่าจะด้วยขนาดที่ใหญ่เกิน ความยาวของสายที่มากเกินความจำเป็น หรือปัญหาเรื่องเต้าเสียบไฟที่ไม่สามารถหาได้ในบางสถานที่ จึงทำให้หลายคนพยายามมองหาพาวเวอร์แบงค์ที่เหมาะสำหรับการใช้งานกับอุปกรณ์ขนาดใหญ่ไว้พกติดตัวสักอัน ซึ่งในบทความนี้เองก็ได้นำเอาวิธีเลือกซื้อ Power bank ที่เหมาะสำหรับการชาร์จไฟอุปกรณ์พกพาขนาดใหญ่มาแนะนำให้หลายคนได้นำไปใช้เป็นแนวทางในการเลือกหาพาวเวอร์แบงค์สักตัวไว้ใช้งานกับไอแพด หรือแท็บเล็ตคู่ใจของตัวเอง
เลือกที่มีปริมาณความจุไฟมากพอ ความแตกต่างที่ชัดเจนอย่างแรกระหว่างอุปกรณ์พกพาขนาดเล็กอย่างสมาร์ทโฟน และอุปกรณ์ขนาดใหญ่อย่างไอแพด หรือแท็บเล็ตก็คือขนาดแบตเตอรี่ ซึ่งแน่นอนแบตเตอรี่ของไอแพด หรือแท็บเล็ตนั้นมีขนาดใหญ่กว่า ดังนั้นการเลือกหา Power Bank สำหรับไว้ชาร์จไฟกับอุปกรณ์เหล่านี้ก็ควรต้องมีปริมาณความจุไฟที่สูงพอ โดยปริมาณที่แนะนำจะอยู่ที่ 15,000 Mah ขึ้นไป ซึ่งหากเป็นรุ่นที่ต่ำกว่านี้ก็ค่อนข้างแน่นอนว่าไม่เพียงพอต่อการใช้งาน โดยอาจใช้ชาร์จแบตฯให้กับอุปกรณ์เพิ่มได้เพียง 20-30% ปริมาณแบตฯในตัวพาวเวอร์แบงค์ก็หมดลงแล้ว
ความเร็วในการรับส่งกระแสไฟ สำหรับความเร็วในการชาร์จไฟให้กับอุปกรณ์สมาร์ทโฟนรุ่นใหม่ๆ เราอาจจะคุ้นเคยกับระดับความเร็วที่ 25 วัตต์, 30 วัตต์ ซึ่งก็ทำให้รู้สึกได้แล้วว่าใช้เวลาในการชาร์จค่อนข้างเร็วเมื่อเทียบกับระบบชาร์จเดิมๆ ในช่วงหลายปีก่อน แต่สำหรับอุปกรณ์ขนาดใหญ่อย่างแท็บเล็ต ไอแพด ที่มีขนาดแบตเตอรี่ใหญ่ตามตัวไปด้วยนั้น แน่นอนหากชาร์จด้วย Power Bank ที่มีระดับความเร็วดังที่ยกตัวอย่างนั้น ก็ยังคงทำให้เราต้องรอเวลาในการชาร์จนานอยู่ดี ดังนั้นความเร็วในการจ่ายกระแสไฟของ Power Bank สำหรับใช้งานกับอุปกรณ์ขนาดใหญ่จึงควรมากกว่าระดับที่ยกตัวอย่างมา โดยความเร็วแนะนำอยู่ที่ 80 วัตต์ขึ้นไป ทั้งนี้ Power Bank บางแบรนด์ บางรุ่นนที่พัฒนาขึ้นมาเพื่อใช้งานสำหรับอุปกรณ์ขนาดใหญ่โดยเฉพาะ อาจมีความเร็วในการจ่ายไฟสูงถึง 200 วัตต์เลยทีเดียว แต่ก็มาพร้อมก็ราคาที่สูงด้วยเช่นกัน อย่างไรก็ตามจำนวนวัตต์ของ Power Bank ก็ไม่ใช่ตัวกำหนดความเร็วในการชาร์จทั้งหมดซะทีเดียว ประสิทธิภาพในการรับกระแสไฟของตัวอุปกรณ์นั้นๆ ก็มีผลต่อระยะเวลาในการรอชาร์จด้วยเช่นกัน หรือว่ากันง่ายๆ ก็คืออุปกรณ์แท็บเล็ต หรือไอแพดเจนใหม่ๆ ที่มีการพัฒนาตัวแบตเตอรี่และประสิทธิภาพในการรับกระแสไฟ รวมถึงเทคโนโลยีในส่วนของพอร์ตการเชื่อมต่อมาตลอดมักจะใช้เวลาในการรอชาร์จเร็วกว่าอุปกรณ์เจนเก่า แม้ว่าจะใช้ Power Bank ที่มีจำนวนวัตต์เท่ากันในการชาร์จก็ตาม ในการเลือกหา Power Bank สำหรับใช้งานกับอุปกรณ์เจนเดิมๆ จึงอาจไม่มีความจำเป็นต้องเลือกที่มีจำนวนวัตต์มากถึง 200 วัตต์ เพราะอาจไม่ได้ช่วยให้ระยะเวลาในการชาร์จเร็วขึ้นมากสักเท่าไหร่ และในปัจจุบันก็มี Premium Power Bank ที่มีให้เลือกซื้อใช้กันหลากหลายแบรนด์ เช่น Power Bank Eloop ที่มีความความคงทนแข็งแรง และมีความจุที่มากพอในการใช้งานต่อวัน