
ในยุคปัจจุบันนี้ Powerbank หรือแบตสำรองนั้น ไม่ได้มีไว้เพียงแค่เอาไว้ชาร์จมือถือสมาร์ทโฟนหรือแท็บเล็ตเพียงเท่านั้น แต่ยังมีประโยชน์ใช้สอยในการชาร์จอุปกรณ์อื่นๆ มากมาย ไม่ว่าจะเป็นกล้องถ่ายรูป อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์พกพาต่างๆ หรือแม้แต่โน้ตบุ๊ค เดี๋ยวนี้ก็มี Powerbank ที่มีความจุแบตเตอรี่มากพอที่จะสามารถชาร์จโน้ตบุ๊คได้แล้ว และเราสามารถพกพาไปไหนมาไหนได้อย่างสะดวกด้วย
แล้วคุณสมบัติของแบตสำรองหรือ Powerbank แบบไหน ที่จะสามารถใช้ในการชาร์จโน้ตบุ๊คได้ ไม่ใช่ว่าเราจะหยิบ Powerbank ลูกไหนมาชาร์จก็ได้ เพราะว่า Powerbank แต่ละแบบหรือแต่ละแบรนด์นั้น มีสเปคและถูกออกแบบมาให้ใช้กับอุปกรณ์ที่แตกต่างกันอย่างเช่น Power bank eloop และวันนี้เราจะมาดูอุปกรณ์ Powerbank สำหรับใช้ในการชาร์จโน๊ตบุ๊ค ว่าจะต้องเป็นแบบไหน และมีคุณสมบัติอย่างไรบ้าง เพื่อที่เราจะสามารถหยิบมาใช้ได้อย่างตรงวัตถุประสงค์ ไม่ทำให้ทั้ง Powerbank Package Power bank และโน้ตบุ๊คของเราเสียหาย
ฟังก์ชัน USB Power Delivery 3.0
อย่างแรกเลย คือโน้ตบุ๊คของเราจำเป็นต้องมีพอร์ต USB Type-C ในลักษณะที่เป็นฟังก์ชัน USB Power Delivery 3.0 ที่จำเป็นจะต้องรับรองการชาร์จด้วยพอร์ต USB-C ที่จ่ายไฟได้ 65 วัตต์ เพื่อให้ Powerbank ของเราสามารถที่จะชาร์จโน้ตบุ๊คได้เหมือนกับที่เราใช้ชาร์จสมาร์ทโฟนของเรา
เงื่อนไขของ Powerbank ที่แตกต่างจากสมาร์ทโฟน
แต่ที่แตกต่างจากสมาร์ทโฟนคือ เงื่อนไขที่จะสามารถชาร์จโน๊ตบุ๊คด้วยแบตสำรองได้นั้น จะมีจุดสังเกตเพิ่มเติมอยู่เล็กน้อยอย่างเช่น ในส่วนของแบตสำรองนั้น ส่วนใหญ่แล้วที่ตัวแบตเตอรี่เราจะเห็นเพียงแค่ค่าวัตต์ ที่ตัวแบตเตอรี่สำรองสามารถจ่ายออกมาได้ ดังนั้น เราจำเป็นที่จะต้องเช็คแบตสำรองของเรานั้นๆ ที่เราจะหยิบมาใช้ในการชาร์จโน๊ตบุ๊ค ว่าสามารถจ่ายไฟได้สูงสุดกี่วัตต์ โดยสังเกตที่ส่วนของ output บนหัวข้อพอร์ต Type-C ให้ง่ายที่สุดเช็คบนเว็บไซต์ทางการเลยน่าจะดี
อธิบายแบบนี้อาจจะงง จะขอยกตัวอย่างเพื่อให้เข้าใจได้ง่ายขึ้น ยกตัวอย่างเช่น Type-C: 5V/3A, 9V/3A, 12V/3A, 15V/3A, 20V/3.25A 65W Max หมายความว่า แบตสำรองลูกนี้สามารถที่จะจ่ายกระแสไฟได้สูงสุดอยู่ที่ 65 วัตต์ เมื่อมีสาย USB-C ที่รองรับการจ่ายกระแสไฟในระดับนี้ด้วย ซึ่งนี่เพียงพอที่จะสามารถชาร์จแบตเตอรี่โน้ตบุ๊คที่มีฟังก์ชัน Power Delivery 3.0
นอกจากนี้ เรายังสามารถใช้สูตรคำนวณแบบง่ายๆ เหมือนกับอุปกรณ์ไฟฟ้าอื่นๆ ว่าพอร์ต Type-C นั้นสามารถที่จะชาร์จไฟได้สูงสุดกี่วัตต์ ยกตัวอย่างเช่น 5V/3A ได้ 15 วัตต์, 9V/3A ได้ 27 วัตต์, 12V/3A ได้ 36 วัตต์, 15V/3A ได้ 45 วัตต์ และ 20V/3.25A ได้ 65 วัตต์
สายชาร์จ USB Type-C to Type-C
นี่ก็เป็นอีกหนึ่งอุปกรณ์ที่สำคัญเช่นกัน หากเราจะกล่าวถึงการชาร์จโน้ตบุ๊คด้วยแบตสำรองของเรา คือจำเป็นที่จะต้องเลือกสายชาร์จ USB Type-C to Type-C เนื่องจากสายชาร์จมีหลายเกรด ตั้งแต่สายชาร์จ USB-C ที่สามารถรองรับเพียงแค่ Quick Charge ในระดับที่ไม่เกิน 30 วัตต์ จนไปถึงสายชาร์จที่สามารถชาร์จได้ถึง 100 วัตต์เลยทีเดียว ซึ่งก็จะควบคุมการจ่ายไฟที่บริเวณหัวสายชาร์จ วิธีที่ดีที่สุด คือเช็คข้อมูลเกี่ยวกับสายชาร์จรุ่นที่สนใจบนเว็บไซต์ทางการของผู้ผลิต ให้แน่ใจว่าสายชาร์จของเราสามารถรับไฟได้ในระดับ 65-100 วัตต์ แล้วจากนั้นค่อยไปเลือกซื้อน่าจะดีกว่า
ถึงแม้ว่า โน้ตบุ๊ครุ่นใหม่จะมีระบบ Power Delivery 3.0 แล้วก็ตาม แต่ทางที่ดีแนะนำ ว่าหากจะชาร์จแบตไปด้วยและเล่นโน้ตบุ๊คไปด้วย ให้แน่ใจว่างานที่ทำอยู่เป็นงานเบาๆ ไม่แนะนำให้ชาร์จในขณะที่ทำงานหนักๆ อย่างการเล่นเกม เพราะการจ่ายไฟจะไม่พอให้ใช้งาน และนอกจากนี้อาจทำให้อายุการใช้งานของแบตสำรองและโน๊ตบุ๊คของเราเสื่อมอย่างรวดเร็วด้วย ซ้ำร้ายกว่านั้น ทั้งแบตสำรองและโน้ตบุ๊คของเราอาจจะพังในทันที หรือไม่สามารถหยิบมาใช้งานได้อีกก็เป็นได้ ซึ่งอันตรายมากเลยทีเดียว